รวบ “โอ๊ต หนองอีเติ่ง” ขายปืนเถื่อนซุกขนมปี๊บส่งให้ลูกค้า

สืบนครบาลจับกุม “โอ๊ต หนองอีเติ่ง” ลอบขายปืนไทยประดิษฐ์ ใช้วิธีซุกปืนในขนมปี๊บส่งให้ลูกค้า

วันนี้ (6 ม.ค.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้า บก.สส.บช.น.ขยายผลติดตามจับกุมตัวนายนภัสกร หรือ “โอ๊ต หนองอีเติ่ง” อายุ 23 ปี โดยกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต จำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร

สามารถตรวจยึดของกลาง 1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก (ซุกซ่อนในกล่องขนมปี๊ปพร้อมส่ง) 2.กล่องขนมปี๊ป จำนวน 2 กล่อง (ภายในบรรจุขนมเต็มกล่องพร้อมซุกซ่อนอาวุธปืน) และ 3.รถยนต์กระบะ Toyota Hilux Vigo จำนวน 1 คัน (คนร้ายใช้ขับมาส่งปืน) สามารถจับกุมตัวได้ที่ ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้หมู่บ้านหนองอีเติ่ง ต.น้ำทรง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ สืบนครบาลแกะรอยไล่ล่าพ่อค้าปืนเถื่อนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง กระทั่งสามารถได้จับกุม “สมโคลท์พันกระบอก” พ่อค้าปืนเถื่อนตัวใหญ่ในวงการได้ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งหลังจากนั้นได้มีกาขยายผลจนพบว่า บรรดาปืนเถื่อนที่ระบาดมีต้นตอมาจาก หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ พ.ต.อ.จักราวุธจึงได้นำกำลังชุดสืบนครบาลลงพื้นที่สืบสวนจนได้เบาะแสจากคนในพื้นที่ว่าหมู่บ้านดังกล่าวขึ้นชื่อทางลับว่า เป็นแหล่งผลิตปืนเถื่อนมานานแต่การจะเข้าไปสืบสวนนั้นทำได้ยาก เหตุจากหมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านปิด มีระบบสายข่าวคอยแจ้งเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้าน ทำให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนอย่างยากลำบาก

กระทั่งได้สืบทราบเบาะแสว่า จะมีวัยรุ่นชายไว้เคราคอยลำเลียงปืนเถื่อนที่ผลิตจากในหมู่บ้านออกมาส่งให้กับลูกค้านอกตัวหมู่บ้าน ชุดสืบสวนจึงวางกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์ตามป่าละเมาะข้างทางน้ำไม่อาบกว่า 2 วัน จนกระทั่งวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา พบชายต้องสงสัยเดินออกจากบ้านก่อนขับรถกระบะออกจากหมู่บ้าน ชุดสืบสวนไล่ล่าติดตามกระทั่งพบว่าชายต้องสงสัยขับรถไปส่งพัสดุ วิเคราะห์ว่าเป็นอาวุธปืนเถื่อน จึงนำกำลังปิดล้อมก่อนเข้าชาจน์รวบตัวทันที

จากการตรวจสอบคือ นายนภัสกรซึ่งตอนแรกผู้ต้องหาอ้างว่าตนมาส่งขนม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกล่องขนมปี๊ปที่คนร้ายนำมาส่ง พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ในกระป๋องปี๊ปปะปนอยู่กับขนมในปี๊ป จึงยอมรับสารภาพ พร้อมให้เบาะแสที่ทำให้ชุดสืบสวนต้องอึ้ง

โดยนายนภัสกร ให้การว่า ไม่เพียงแต่บ้านของตน แต่ทั้งหมู่บ้านหนองอีเติ่ง ก็ทำปืนเถื่อนขายกันเกือบทั้งหมู่บ้าน บางคนเลิกทำไปแต่เมื่อรายได้ไม่พอก็กลับมาทำใหม่วนไปแบบนี้ ส่วนจะทำมาตั้งแต่สมัยไหนไม่ทราบ แต่เมื่อตนจำความได้หมู่บ้านตนก็เป็นเช่นนี้แล้ว โดยสมัยก่อนยังไม่มีระบบขนส่ง ลูกค้าจะมารับแบบชนมือบริเวณถนนนอกหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันก็ใช้การส่งผ่านระบบขนส่งพัสดุ โดยที่หมู่บ้านลักลอบทำได้มาเป็นเวลานานเพราะรู้ระบบ โดยจะคอยดูข่าวเมื่อใดตำรวจระดับสูงมีการสั่งระดมกวาดล้างปืนเถื่อนก็จะหยุดขายในห้วงนั้น เวลามีคนแปลกหน้าเข้ามาก็จะมีคนคอยแจ้งเตือน ก็จะหลบเอาของกลางไปซ่อนเจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาตรวจไม่พบอะไร โดยหลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรีดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เรามีการสืบสวนจับกุมขยายผลกลุ่มผู้ค้าปืนเถื่อนมาหลายราย กระทั่งคืนใกล้ต้นตอมาจนถึงการจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบต้นตอปืนเถื่อนที่สำคัญมาก เรียกได้ว่าเป็นตัวสำคัญของแหล่งผลิตปืนเถื่อน ต้นตอสำคัญที่ทำให้ปืนเถื่อนเกลื่อนประเทศก็ว่าได้ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เราจะมีการขยายผลการจับกุมให้ถึงที่สุด และขอฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาทส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท