เกิดเหตุรถเก๋งเสียหลักชนเสาไฟฟ้าบนถนนกาญจนาภิเษก ขาออก ส่งผลให้เสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถอีก 2 คัน มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ไฟฟ้าดับในพื้นที่ 150 ครัวเรือน ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมและเปิดการจราจรโดยเร็วที่สุด
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าบนถนนกาญจนาภิเษก ขาออก บริเวณทางเบี่ยงซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น และเสาไฟยังล้มไปทับรถอีก 2 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ส่งผลให้ถนนที่เกิดเหตุการจราจรติดขัด
ร้อยตำรวจโท ธนศักดิ์ สุวรรณวงษ์ รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ขับขี่รถเก๋ง ทราบว่า ผู้ขับขี่กำลังอยู่ระหว่างขับรถไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยใกล้เคียง แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าตัวขับรถด้วยความเร็ว จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ เนื่องจากเป็นทางโค้ง จึงเสียหลักพุ่งเข้าชนกับเสาไฟฟ้า 1 ต้น จนส่งผลให้เกิดการล้มทั้งหมด 12 ต้นดังกล่าว แต่การตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ ผู้ขับขี่รถเก๋ง มีอาการบาดเจ็บที่มือ เจ้าหน้าที่นำส่งรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะมีการเรียกเข้าให้ปากคำและแจ้งความดำเนินคดีภายหลัง โดยขณะสอบปากคำไม่พบว่าผู้ขับขี่มีอาการมึนเมา หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ยังมีรถที่สัญจรผ่าน ได้รับความเสียหายประมาณ 3 คัน ขณะนี้เจ้าของรถได้ลงบันทึกประจำวันเพื่อรอให้ผู้ขับขี่รักษาตัวแล้วเสร็จ ก่อนจะเข้ามาพูดคุยเรื่องการเยียวยา ส่วนสภาพการจราจรบริเวณจุดเกิดเหตุเบื้องต้น พบยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ เนื่องจากในวันนี้เป็นวันหยุด จึงทำให้ปริมาณรถน้อย คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ในการดำเนินการจึงจะเปิดการจราจรได้ตามปกติ
นางหทัยรัตน์ สว่างศรี เจ้าของบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุรถชนเสาไฟฟ้า เล่าว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังโครมสนั่นหวั่นไหว จากนั้นก็มีเสียงหม้อแปลงระเบิดและเสียงเสาหักโค่นหลายครั้ง เมื่อกี้ออกมาดูกับพบว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าซึ่งอยู่ที่หน้าบ้านของตนเองหักโค่น แล้วดึงรั้งเสาต้นอื่นหักโค่นตามไปด้วย จากนั้นก็เข้าไปช่วยเหลือคนที่อยู่ในรถคันก่อเหตุสองคน ซึ่งสวมใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไรมาก โดยคนขับรถได้ขอให้ช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเดินทางไปโรงพยาบาล เพราะมีอาการเจ็บข้อมือ
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองตกใจอย่างมาก เพราะถ้าไม่มีเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวบังไว้ รถคงจะพุ่งชนเข้าที่บ้านอย่างจังแน่นอน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงได้ลงพื้นที่ซ่อมแซมทันที เพราะส่งผลกระทบไฟฟ้าดับในพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งแก้ไขเพื่อจ่ายไฟคืนโดยเร็วที่สุด โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
ตำรวจสอบสวนผู้ขับขี่รถยนต์ที่ก่อเหตุ ทราบว่า ผู้ขับขี่กำลังอยู่ระหว่างขับรถไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยใกล้เคียง แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าตัวขับรถด้วยความเร็ว จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ เนื่องจากเป็นทางโค้ง จึงเสียหลักพุ่งเข้าชนกับเสาไฟฟ้า 1 ต้น จนส่งผลให้เกิดการล้มทั้งหมด 12 ต้นดังกล่าว แต่การตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ ผู้ขับขี่รถเก๋ง มีอาการบาดเจ็บที่มือ เจ้าหน้าที่นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลก่อนจะมีการเรียกเข้าให้ปากคำและแจ้งความดำเนินคดีภายหลัง โดยขณะสอบปากคำไม่พบว่าผู้ขับขี่มีอาการมึนเมา หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ยังมีรถที่สัญจรผ่าน ได้รับความเสียหายประมาณ 3 คัน ขณะนี้เจ้าของรถได้ลงบันทึกประจำวันเพื่อรอให้ผู้ขับขี่รักษาตัวแล้วเสร็จก่อนจะ เข้ามาพูดคุยเรื่องการเยียวยา ส่วนสภาพการจราจรบริเวณจุดเกิดเหตุเบื้องต้น พบยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติเนื่องจากในวันนี้เป็นวันหยุดจึงทำให้ปริมาณรถน้อย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ในการดำเนินการจึงจะเปิดการจราจรได้ตามปกติ
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบเสาไฟฟ้าที่หักโค่นมีขนาด 12 เมตร สำหรับติดตั้งสายไฟกำลังส่ง 24,000 โวลต์ มีสายไฟ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ไฟดับประมาณ 150 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรื้อซากเสาไฟที่หักโค่น พร้อมเจาะพื้นเพื่อติดตั้งเสาแท่งใหม่แทนของเดิมที่เสียหาย เพื่อจะขึ้นสายไฟและสายโทรคมนาคมให้กับมาใช้การได้เหมือนเดิม
โดยขณะนี้พบอุปสรรคในเรื่องของท่อประปาบริเวณใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ แต่เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด การประเมินคาดว่าในช่วงเย็นวันนี้ จะสามารถจ่ายระบบไฟฟ้าได้บางส่วน และจะสามารถดำเนินการให้เต็มระบบได้ภายในช่วงกลางคืน โดยหากดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จทางการไฟฟ้านครหลวงจะส่งตัวแทนเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ สน.เพชรเกษม อีกครั้ง ซึ่งจากการพูดคุยทราบว่าผู้ขับขี่รถยนต์คันก่อเหตุ มีประกันภัย แต่รายละเอียดของความเสียหายขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้