ผบช.ก.นำทีมตำรวจสอบสวนกลางร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา "เกาะลิบง" ปรับปรุงระบบน้ำไว้สู้ภัยแล้ง - ติดตั้งไฟโซลาร์เซลล์ มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ทุนการศึกษาให้นักเรียนด้อยโอกาสบนเกาะ พร้อมทั้งสร้างอาคารอเนกประสงค์ให้มัสยิดอีกด้วย
วันนี้ ( 4 ม.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย คุณรงรอง ภูริเดช ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ร่วมกับภาครัฐ และภาคเอกชน จัดโครงการจิตอาสาพัฒนาเกาะลิบง โดยเป็นการพัฒนาชุมชนและช่วยเหลือโรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิงบง อ.กันตัน จ.ตรัง ในการพัฒนาระบบน้ำ ขุดบ่อบาดาล ปรับปรุงถังเก็บน้ำ พร้อมสร้างหลังคาทางเดินภายในโรงเรียน ติดตั้งไฟโซลาร์เซลล์ส่องสว่างทางเดินภายในบริเวณโรงเรียน และบริเวณเกาะลิบงกว่า 100 ดวง รวมทั้งมอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬาและทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน
ขณะเดียวกันยังมีการบูรณะซ่อมแซม ทาสี สนามเด็กเล่นของโรงเรียนบาตูปูเต๊ะ เพิ่มเครื่องเล่นใหม่ ให้กับเด็ก ๆ ในโรงเรียน เพื่อให้ได้เล่นผ่อนคลายจากการเรียนหนังสือ และใช้ในการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ รวมทั้งปรับปรุงห้องละหมาดของโรงเรียน และมีหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่มาตรวจสุขภาพให้กับนักเรียนและชาวบ้าน ขณะที่ชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลางยังได้แจกไอศกรีมตลอดจนเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับเด็ก ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงจัดระบบบริหารจัดการน้ำภายในโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมสำคัญ เนื่องจากชาวบ้านมักเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง เพราะเป็นพื้นที่เกาะ ล้อมรอบด้วยทะเล ดังนั้น "น้ำจืด" สำหรับอุปโภคบริโภค จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นปัญหาใหญ่ของนักเรียนและชาวบ้านที่นี่
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พระบรมราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่อยากเห็นคนไทย มีความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตำรวจสอบสวนกลาง พบว่าที่โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต ทางตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมผู้สนับสนุน จึงอยากจะช่วยแบ่งเบาปัญหา เข้ามาพัฒนาระบบน้ำ ปรับปรุงสนามเด็กเล่น พร้อมทั้งสร้างหลังคาทางเดินระหว่างอาคาร เพื่อกันแดดกันฝนให้กับนักเรียนในช่วงเปลี่ยนคาบเรียน และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดี และนักเรียนที่ลำบาก เพื่อหวังว่า พวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการสร้างอาคารอเนกประสงค์ มัสยิดเกาะลิบง เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ก็จะได้นำอาคารอเนกประสงค์แห่งนี้ไปใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรือกิจกรรมของชุมชนอีกด้วย
