สาวหนองคาย แม่ลูกอ่อนขับ จยย. ชน อัดท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ขณะจอดอยุ่หน้าร้าน ขนอิฐมอฐ แม่ดับลูกวัย 3 เดือนสาหัส
วันนี้( 26 ธ.ค.)เมื่อเวลา 12.20 น.ร.ต.อ อุดมเกียรติ มาแจ้ง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถ จยย.ชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่บริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านแสงชัยพัฒนา ถนนกรุงเทพฯ - ปทุมธานี ต.บางปลอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้บาดเจ็บ หลังรับแจ้ง จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและแพทย์เวรจาก สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อเล็ก ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 80-9551 ปทุมธานี จอดดับเครื่องชิดขอบทางริมฟุตบาท หันหน้ามาทางสี่แยกปทุมวิไล โดยไม่มีคนขับ ที่ท้ายรถพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 9กช-2138 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำในสภาพหน้ารถพังยับเยินิ โดยมีร่างคนขับเสียชีวิตลักษณะคร่อมคารถอยู่ โดยที่หน้าอกผู้เสียชีวิต มีกระเป๋าเป้แบบสะพายเด็กอ่อน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ไพลิน เอื้องไชยสงค์ อายุ 32 ปี ชาว จ.หนองคาย และใกล้กันพบมีชาวบ้านอุ้มเด็กน้อยอ่ยุประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งไม่ได้สติแต่ยังมีลมหายใจแบบอ่อนๆ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องรีบนำเด็กส่ง รพ.ปทุมธานี ทันที
จาการสอบถามเจ้าของรถบรรทุก ซึ่งเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง ได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีลูกค้ามาสั่งอิฐมอญและปูน ตนจึงได้ให้ลูกน้องไปขับรถคันดังกล่าว มาจอดที่หน้าร้านเพื่อจะขนของไปส่งลูกค้าและหลังจากนั้นไม่นานซึ่งยังไม่ทันที่จะได้ขนของขึ้นรถ จู่ๆก็ได้ยินเสียงเหมือนมีรถมาชนท้าย จึงได้ออกมาดูก็พบว่า มี รถ จยย.ซึ่งมีผู้หญิงเป็นคนขับและมีเด็กอ่อนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกคาอยู่ที่หน้าอก ชนเข้าที่บริเวณกันชนหลังขวาด้านท้ายรถแล้วรถล้มคว่ำลง เป็นเหตุให้ คนขับเสียชีวิต ส่วนเด็กเล็กนั้นได้มีลูกจ้างของร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งอยู่ใกล้กัน มาอุ้มออกไปจากกระเป๋าหน้าอกของผู้เสียชีวิต ตนจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที
ด้าน ร.ต.อ อุดมเกียรติ มาแจ้ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ และร่วมชันสูตรพลิกศพพร้อมกับแพทย์เวร จากนั้นจึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ในเบื้องต้นได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวได้จอดอยู่ชิดขอบทางจริงและมีรถ จยย.คันที่เกิดเหตุได้กลับมา ก่อนที่รถจะพุ่งชนท้ายอย่างจัง เป็นเหตุให้คนขับเสียชีวิตและเด็กอ่อนเป็นเด็กผู้ชาย อายุประมาณ 2-3 เดือน ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะนี้นี้ยังต้องรอดูอาการของเด็กว่าปลอดภัยหรือไม่และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ ว่าเกิดจากความประมาท จากรถคู่กรณีหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งไปชันสูตร ที่ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งและจะได้ประสานทางญาติๆมารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป