xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 2 โจ๋ลอบขายปืนประดิษฐ์แปลงลำกล้องใช้กระสุนจริง ผ่านทางเฟซบุ๊ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบนครบาลจับกุม 2 ผู้ต้องหาลักลอบขายปืนประดิษฐ์ดัดแปลงลำกล้องใช้กระสุนขนาด .380 ผ่านทางเฟซบุ๊ก

วันนี้ (24 ธ.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ดำเนินการได้จับกุมตัว นายลินดา (สัญชาติกัมพูชา) อายุ 19 ปี นายพี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ในข้อหาร่วมกันมีและพยายามจำหน่ายอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันมีอาวุธมีดโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร สามารถจับกุมได้บริเวณหน้าตลาดปัฐวิกรณ์ ถ.นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบุงกุ่ม กรุงเทพฯ

โดนพฤติการณ์แห่งคดี ก่อนทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดที่ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางในการติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามคำสั่งของ พล.ต.ต.ธีรเดช ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายพี ใช้บัญชีเฟซบุ๊กในการขายอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนติดตามเรื่อยมา

กระทั่งวันนี้ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ได้มีสายลับเข้ามาพบเจ้าหน้าที่และแจ้งว่า มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เสนอขาย อาวุธปืนประดิษฐ์ดัดแปลงลำกล้อง พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด .380 ในราคา 12,500 บาท โดยนัดหมายให้มารับบริเวณตลาดปัฐวิกรณ์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ จึงทำการวางแผนล่อซื้อจับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. วันเดียวกัน จึงได้ออกเดินทาง พร้อมได้มอบเงินล่อซื้อ ให้กับสายลับโดย และมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ไปกับสายลับเพื่อไปทำการล่อซื้ออาวุธจากนายพี

จนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณจุดนัดหมาย และได้ให้สายลับโทร.แจ้งนายพี ก่อนที่นายพีจะขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ริมถนนนวมินทร์ หน้าตลาดปัฐวิกรณ์ โดยมี นายลินดา เป็นผู้ซ้อนรถจักรยานยนต์มาด้วย จากนั้น นายพีได้เดินมาหาสายลับที่อยู่บริเวณหน้าตลาดปัฐวิกรณ์ เพื่อทำการซื้อขายอาวุธปืนของกลางดังกล่าว เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นอาวุธปืนของกลางดังกล่าว สายลับจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัวนายพีพร้อมของกลางอาวุธปืน ระหว่างที่เข้าทำการจับกุมนายพี และนายลินดาที่รออยู่ที่รถจักรยานยนต์ ได้พยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการควบคุมตัวนายลินดา และได้ทำการตรวจค้นตัวนายลินดา พบอาวุธมีดอยู่ที่เอว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายพีและนายลินดามายัง กก.สส.2 บก.สส.บช.น. เพื่อสอบสวนขยายผลอาวุธปืน

จากการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืน นายพี ได้ให้การว่า ได้ติดต่อเสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 12,500 บาท และนายลินดา ให้การว่า ได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ของนายพีมา โดยนายพี บอกว่า ให้มาเป็นเพื่อนซื้อของแถวนวมินทร์ ส่วนอาวุธมีด ตนได้พกมาเพื่อไว้ป้องกันตัว จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สนบึงกุ่ม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า อาวุธปืนนั้น เป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ทั้งเหตุอุกฉกรรจ์ ลักวิ่งชิงปล้น นักเรียนไล่ยิงกัน วัยรุ่นยิงคู่อริ โดยทางสืบนครบาลมุ่งเน้นที่จะปราบปรามจับกุมอย่างจริงจังตลอดเวลา และขอฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐานซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายมีความผิดฐานทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท




กำลังโหลดความคิดเห็น