MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เผย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ส่งสำนวน "ดิไอคอน" กว่า 340,000 แผ่น ให้อัยการคดีพิเศษ เอาผิด 4 ข้อหา ส่วนคดีฟอกเงินอยู่ระหว่างขยายผล
วันนี้ (23 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน์นิรันดร์กิจ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ ร่วมแถลงการส่งสำนวนสอบสวนพร้อมพยานหลักฐาน บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด (คดีพิเศษที่ 119/2567) ไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ
พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า การสอบสวนสำนวนคดีดิไอคอน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ใช้เวลาทั้งสิ้น 54 วัน และมีมติสั่งฟ้องผู้ต้องหา 18 ราย และ 1 นิติบุคคล ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ , พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 สืบเนื่องจากที่ดีเอสไอได้รับสำนวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) มาดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 119/2567 ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.67
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ในคดีนี้มีพยานเอกสารถึง 348,209 แผ่น พยานบุคคล 8,071 ปาก มีผู้เสียหายจำนวน 7,875 ราย มูลค่าความเสียหาย จำนวน 1,644 ล้านบาท ปรากฏตัวผู้ต้องหา จำนวน 19 ราย ซึ่งเป็นนิติบุคคลจำนวน 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา จำนวน 18 ราย ได้แก่ นายนายวรัตน์พล หรือบอสพอล กับพวก รวมทั้งได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินในคดีฟอกเงิน จำนวน 747,640,000 ล้านบาท อาทิเช่น อาคารและที่ดิน จะมอบให้สำนักงาน ปปง. เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมายของ ปปง.
"ขอขอบคุณ สำนักงานอัยการสูงสุด ที่ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการมาเป็นที่ปรึกษาในคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่รับเรื่องและประสานความร่วมมือด้วยดีตลอดมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งสนับสนุนในการเก็บและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์เพื่อนำไปเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย ตลอดถึงขอขอบคุณ คณะที่ปรึกษาคดีพิเศษทุกท่าน และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทุกท่านที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ ในการทำงานจนสามารถทำให้คดีนี้ส่งพนักงานอัยการเพื่อให้มีความเห็นทางคดีตามกรอบระยะเวลาของกฎหมายซึ่งเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดแก่ผู้เสียหายอย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของการดำเนินการในคดีฟอกเงิน (คดีพิเศษ 115/2567) ของกรณีบริษัท ดิไอคอนฯ ยังคงมีการดำเนินการต่อไป"
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ส่วนประเด็นที่ทนายความของผู้ต้องหาจะใช้สิทธิ์โต้แย้งในชั้นพนักงานอัยการ กรณีการสอบสวนปากคำพยานของผู้ต้องหาเข้าสู่สำนวน เนื่องด้วยดีเอสไอสอบสวนปากคำนำเข้าสำนวนเพียง 50 รายนั้น ถือเป็นสิทธิของฝ่ายผู้ต้องหาที่สามารถร้องขอความเป็นธรรม แต่ที่ประชุมของคณะพนักงานสอบสวนก็ได้มีการลงมติแล้วว่าประเด็นมันเพียงพอ ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้ว ซึ่งดีเอสไอก็ได้รับฟังคำให้การของทุกฝ่ายเข้าสู่สำนวนการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีว่าในปี 2568 ดีเอสไอจะมีการขยายผลไปยังกลุ่มแม่ทีมหรือไม่ เนื่องจากแม่ทีมเหล่านั้นก็ได้มีดาวไลน์ หรือลูกทีมของตัวเอง พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างวิเคราะห์คำให้การ และจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ว่าจะมีการกล่าวหาใครเพิ่มเติมหรือไม่ แต่เชื่อว่าน่าจะมี เพียงแค่ยังไม่สามารถระบุได้ในตอนนี้
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยถึงกรณีที่มีผู้มีความรู้ด้านกฎหมายได้ไปมีพฤติการณ์ข่มขู่พยานหรือผู้เสียหายของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ว่า ในเรื่องนี้ดีเอสไอได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่ ว่ามีการกระทำความผิด มีการละเมิดกฎหมาย หรือมีการคุกคามข่มขู่พยานหรือไม่ อย่างไร ซึ่งถ้ามีพยานหลักฐานเข้าองค์ประกอบความผิดกฎหมาย ก็จะมีการดำเนินคดี
พ.ต.ต.ยุทธนา ปิดท้ายว่า หากภายหลังจากที่ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว และพนักงานอัยการคดีพิเศษมีหนังสือคำแนะนำอยากให้ดีเอสไอมีการสอบสวนประเด็นใดเพิ่มเติม หรือแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใดเพิ่มเติม ดีเอสไอก็จะรับกลับมาดำเนินการตามขั้นตอน
ขณะที่คณะพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ภายหลังจากสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ จะทำการตรวจสอบรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นถ้อยคำให้การของผู้เสียหายและคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ต้องหา รวมไปถึงพยานหลักฐาน พยานเอกสาร พยานวัตถุที่ดีเอสไอได้รวบรวมมาได้ ดังนั้น การยื่นขอประกันตัวชั่วคราวของทนายความของผู้ต้องหา คาดว่าจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่พนักงานอัยการรับมอบสำนวนการสอบสวนจากดีเอสไอ เนื่องด้วยจะมีการใช้เงื่อนไขว่าดีเอสไอได้มีการส่งสำนวนเป็นที่เรียบร้อย มีมติสั่งฟ้อง 18 ผู้ต้องหา และ 1 นิติบุคคล จึงจะใช้เป็นเงื่อนไขเสนอต่อศาลได้ว่าผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลางในตอนนี้จะไม่สามารถไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือมีพฤติกรรมหลบหนีได้ อีกทั้งบัญชีธนาคารบัญชีเงินฝากก็ได้ถูกยึดและอายัดไว้ตรวจสอบแล้ว จึงอาจเป็นข้อพิจารณาที่ทนายความของผู้ต้องหาจะใช้ในการยื่นขอประกันตัวชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม หากศาลพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหารายใดก็ตาม การไปออกรายการทีวีหรือแสดงความเห็นใดๆ ผู้ต้องหาก็สามารถทำได้แต่ต้องไม่ก้าวล่วงรายละเอียดภายในสำนวนคดี มิเช่นนั้นก็จะกลับไปเข้าการผิดเงื่อนไขยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้