รองโฆษกอัยการ แจง เหตุ ไม่เรียกสอบพยานเพิ่มตามคำร้องขอความเป็นธรรม ‘เชน ธนา’ชี้ไม่มีประเด็นสำคัญเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ขณะที่ศาลนัดไกล่เกลี่ย 20 ก.พ.ปีหน้า
กรณีที่ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 (พระนครใต้) มีคำสั่งฟ้อง นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ เชน ธนา อายุ 37 ปีอดีตนักร้องนักแสดง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด คดีฉ้อโกง บริษัท ไทยยินตัน จำกัด ความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมแก่พนักงานอัยการสูงสุดแล้ว แต่ไม่มีการเรียกเข้าไปชี้แจงหรือให้สอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 ได้มีคำสั่งฟ้อง บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัดโดย นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ,นายธนาตรัยฉัตร ผู้ต้องหาที่ 1-2 ที่ต่อศาลแขวงพระนครใต้แล้ว ส่วนกรณทีที่นายธนาตรัยฉัตร ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อทางอัยการนั้น พนักงานอัยการได้พิจารณาประเด็นตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาแล้ว เห็นว่าเพื่อให้การพิจารณาสั่งคดีของพนักงานอัยการเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม จึงได้สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 ประกอบระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการร้องขอความเป็นธรรมในคดีอาญา พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผลสอบเพิ่มได้ส่งกลับมายังสำนักงานอัยการศาลแขวง 4 เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา
นายกุญช์ฐาน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวต่อว่า การที่ทางอัยการไม่เรียกพยานมาสอบสวนเพิ่ม เพราะอัยการเห็นว่าไม่จําเป็นที่จะต้องเรียกหรือสอบใครเพิ่มเติม อาจจะเป็นประเด็นเดิมที่มีในสำนวนแล้ว เพื่อเป็นการไม่ประวิงเวลาคดี และกรณีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมของนายเชน ธนา นั้น เข้าข้อ 15 ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการร้องขอความเป็นธรรมในคดีอาญา พ.ศ. 2567 ที่พนักงานอัยการไก้มีความเห็นหรือคำสั่งทางคดีไปก่อนรับเรื่องการร้องขอความเป็นธรรม ถ้าพนักงานอัยหารเห็นว่าการร้องขอความเป็นธรรมไม่เป็นเหตุให้ผลการพิจารณาสั่งคดีเปลี่ยนแปลงไป ให้พนักงานอัยการเสนอความเห็นยืนยันคำสั่งเดิม จึงได้ทำการสั่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ในวันนี้ และศาลได้รับเป็นคดีดำหมายเลขที่ 2263/2567 และนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 20 ก.พ.2568 และจะมีการสอบคําให้การของตัวผู้เสียหายกับตัวจําเลย เนื่องจากเป็นความผิดต่อส่วนตัวจึงสามารถเจรจายอมความไกล่เกลี่ยได้
ที่ศาลเเขวงพระนครใต้ นายนริศ วิทยาวรากรณ์ 39 ปีผู้เสียหาย พร้อมนายธนพงศ์ จูสนิท 35 ปีทนายความ เดินทางมายังศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวนายธนาตรัยฉัตร เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด
นายธนพงศ์ ทนายความ กล่าวว่า ในคดีนี้มีการฟ้องจำเลยที่1-3 ประกอบด้วยบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด นายนายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ และนางสาวกาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ ภรรยา โดยตนได้ตรวจพบว่าก่อนหน้ามีคำสั่งฟ้องวันนี้มีข้อมูลเว็บไซต์ของบริษัทของจำเลยที่ 2 และ 3 ซึ่งระบุหน้าที่และตำแหน่งต่างๆว่ามีอำนาจหน้าที่อะไรบ้างแต่ล่าสุดพบว่าข้อมูลนั้นหายไป คล้ายถูกลบจึงมองว่าเข้าข่ายยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือทำลายพยานหลักฐาน วันนี้จึงมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางมาพร้อมกับลูกความ เพื่อเขียนคำคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเกรงว่า หากถูกปล่อยตัวออกมาจะไปลบหรือทำลายหลักฐานในส่วนอื่นๆ ที่เป็นการพิสูจน์เจตนาในการกระทำผิด
นายธนพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีการผัดฟ้องหลายครั้งและครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายซึ่งแต่ละครั้งได้มีการแจ้งระบุวัน ที่ชัดเจนให้ทราบมาโดยตลอด แต่ปรากฎว่าวันนี้จำเลยที่ 3 ไม่ได้เดินทางมาโดยอ้างว่ามีอาการป่วยตนจึงไม่แน่ใจว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวจะมีการตรวจสอบมากน้อยแค่ไหน หรือจะเป็นการประวิงเวลาให้เกิดความล่าช้า หรืออาจเข้าข่ายพฤติการณ์หลบหนีหรือไม่ และจากการตั้งข้อสังเกตุและข้อมูลที่เห็นมา ไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จำเลยที่ 2 และ 3 ยังมีการจัดงานสังสรรค์อยู่
ด้านนายนริศ กล่าวว่า หลังทราบวันนี้ครบกำหนดสั่งฟ้องหลังผัดฟ้องมา 5 ครั้งสรุปว่าวันนี้มีเพียงจำเลยที่ 2 ที่เดินทางมาทำให้อัยการสั่งฟ้องได้แค่จำเลยที่ 1 และ 2 คือบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด และนายนายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ แต่จำเลยที่ 3 ไม่ได้เดินทางมา ซึ่งไม่ทราบว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร และก่อนหน้าจำเลยที่ 2 ได้ระบุว่าตนไม่ได้มีโอกาสชี้แจงและมองว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับสินค้าและสัญญาซื้อขายไม่ตรงกัน
นายนริศ บอกว่า เรื่องดังกล่าวจำเลยที่ 2 ได้ฟ้องตนในคดีแพ่งมาแล้ว ซึ่งได้พิสูจน์ในศาลชั้นต้นของแพ่งไปแล้ว และบริษัทไทยยินตัน ของตนก็ชนะ และศาลก็ยกฟ้องก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า เรื่องคุณภาพสินค้า สี และรายละเอียดต่างๆก็ยกฟ้องไปทั้งหมด มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว นอกจากนี้ตนมองว่า อยากให้จำเลยที่ 2 ออกมาชี้แจงพร้อมกับตน และพร้อมที่จะชี้แจงร่วมกันตนจะดีใจด้วยซ้ำ หากเขาพร้อมที่จะออกมาชี้แจงร่วมกัน
ส่วนปัจจุบันจำเลยที่ 2 มีการลด บทบาทการขายสินค้าผ่านหน้าจอโทรทัศน์แล้วไปขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ นายนริศ มองว่า ตนยินดีหากเขาตั้งใจขายเพื่อที่จะนำเงินมาชำระหนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี และพร้อมเป็นกำลังใจให้แต่เท่าที่ทราบ เมื่อเขาขายสินค้าได้แต่ไม่ได้เอาเงินมาชำระเจ้หนี้แต่ดันเอาเงินออกจากบริษัทแทน จึงเป็นประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตุว่าน่าจะเอาเงินออกไปใช้ส่วนตัวหรือเป็นการถ่ายเททรัพย์สิน เรื่องนี้อาจเป็นที่มาของการปรึกษาทนายดำเนินคดีอีก 1 คดี และจากที่ทราบการเอาเงินออกเป็นช่วงตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง ระหว่างเกิดเรื่อง และหลังเกิดเรื่อง จำนวนรวมๆกันกว่า หลักร้อยล้านบาท
ขณะที่มีรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดพบว่าครอบครัวของนายธนาตรัยฉัตร ล่าสุดได้ซื้อรถหรู LEXUS LM300 Hราคาประมาณ 5-6 ล้านบาท