รรท.ผบช.น.สั่งสอบเหตุ “จ.ส.ต.” เมาชักปืนขู่การ์ดหน้าผับดัง ย่านทองหล่อ ก่อนยิงขึ้นฟ้า ล่าสุดถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว เตรียมพิจารณาโทษร้ายแรง
วันนี้ (16 ธ.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 สั่งการให้ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จอกโคกสูง รองผกก.ป.สน.ทองหล่อ และสายตรวจสน.ทองหล่อ ตรวจสอบเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า หน้าอาคารเท็น ซอยเอกมัย5-ทองหล่อ10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้ทำการควบคุมตัว จ.ส.ต.มนตรี (สงวนนามสกุล) ผบ.หมู่ ฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ พร้อมของกลางอาวุธปืนยี่ห้อ ซิกเซาเออร์ รุ่น 320 รหัสประจำปืน T60124xx กระสุนปืน ขนาด 9 มม. 13 นัด บรรจุอยู่ในซองบรรจุกระสุน 1 ซอง ซองพกพาอาวุธปืนพกซ่อนแบบหนังสีดำ ปลอกกระสุนปืนที่ถูกใช้ยิงแล้วขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก ตรวจพบบริเวณลานจอดรถอาคารเท็น ใกล้เคียงกับจุดที่ยิงปืนขึ้นฟ้า
โดยเหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีมีชายไม่ทราบชื่อได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าบริเวณสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวจึงรีบทำการเดินทางตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุ อยู่ในอาการ มึนเมาลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเข้าตรวจค้นตัวพบอาวุธปืนยี่ห้อ sig sauer รุ่น 320 พร้อมซองกระสุนเหน็บอยู่ที่เอวของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงทำการปลดอาวุธและควบคุมตัวไว้ จากนั้นพบ พยานใกล้เคียง ให้การว่า ตนได้ยินเสียงโวยวายบริเวณหน้าอาคารดังกล่าวจึงออกมาตรวจสอบ
ทั้งนี้จากการตรวจพบผู้ก่อเหตุคือ จ.ส.ต.มนตรี อยู่ในอาการมึนเมา หลังเอาอาวุธมีดเข้ามาในสถานบริการชื่อดังบริเวณดังกล่าว จึงถูกการ์ดเชิญลงมา แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจยังใช้อาวุธปืนชี้มายังการ์ด และต่อว่าด่าทอโดยไม่ทราบสาเหตุผู้ก่อเหตุเป็นอะไร จึงบอกให้ใจเย็น แต่ยังคงโวยวายและชักปืนออกมายิงบริเวณหน้าทางเข้าลานจอดรถอาคาร จากนั้นวิ่งกลับไปยังรถจักรยานยนต์ของตนเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสน.ทองหล่อ ชุดจับกุมจะรีบเข้าควบคุมตัวไว้ได้ จากนั้นจึงนำตัวผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ
ด้าน พ.ต.อ.พันษา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา 1.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.พาอาวุธปืนไปในเมืองและหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร และ 3.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านฯ โดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้พยานในที่เกิดเหตุสามารถเข้ามาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเข้าข่ายพยายามฆ่า เนื่องจากผู้ก่อเหตุชี้ปืนไปที่บุคคลอื่นอีกด้วย
ทั้งนี้ในฐานะผู้กำกับการ รับไม่ได้ ตำรวจต้องใช้ปืนเพื่อยิงโจรคนร้าย หรือใช้ป้องกันตนเมื่อมีอันตรายใกล้ตนอันสมควรแก่เหตุ การที่ตำรวจใช้ปืนชี้ไปที่บุคคลอื่น เพราะการ์ดเขาไม่ให้เข้าร้าน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเมามาก เป็นเหตุไม่สมควรกระทำ ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง โทษสูงสุดคือ ไล่ออกจากราชการตำรวจ เพื่อไม่ให้ตำรวจเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เบื้องต้น ตนได้สั่งการให้ปลดอาวุธปืนหลวง 2 กระบอกของผู้ก่อเหตุเอาไว้ และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานส่งเอกสารไปที่ผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาลงโทษวินัยร้ายแรงไล่ออกจากราชการตำรวจ
ส่วนเรื่องประกันตัว ตอนนี้มีญาติมาติดต่อขอประกันตัว ก็จะพิจารณาวงเงินขั้นสูง 150,000 บาท คิดว่าอาจให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปในระหว่างสอบสวน เนื่องจากเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญถ้าไม่ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ไม่มีการหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ก็สามารถดุลพินิจปล่อยตัวชั่วคราวได้ แต่จะดำเนินการทางวินัยร้ายแรงทางคดีอาญาเที่ยงตรงเด็ดขาด