xs
xsm
sm
md
lg

แฉปมดับสจ.โต้ง แตกหักเปลี่ยนขั้วซบพรรคใหญ่ ส่งเมียลงนายกชิง อบจ.แข่งบ้านใหญ่ ซ้ำปมร้าวลึกปล่อยติดคุกคดีฮั้วประมูล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



เผย “โกทร” หวั่นเสียบัลลังก์เบอร์ 1 ปราจีน หลังรู้ สจ.โต้ง ปันใจซบเพื่อไทย ส่งเมียลงชิงชัย นายก อบจ. ช่วงชิงบารมีบ้านใหญ่ ตัวแปรความขัดแย้ง นำมาสู่แรงจูงใจลวงสังหาร คนใกล้ชิดยันชัด หัก ”โกทร” ตั้งแต่ออกจากคุก เหตุน้อยใจทิ้งให้สู้คดีฮั้วประมูลเพียงลำพัง ก่อนสร้างบารมีเทียบเคียง จนเกิดปัญหาบาดหมางสะสมมานานหลายปี เผย เคยถูกมือมืด ติดต่อมือปืนรบพิเศษเมืองเพชร เตรียมการลอบสังหาร แต่แผนล่มก่อน

จากกรณี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ..โต้ง ถูกกลุ่มมือปืนซึ่งเป็นลูกน้องของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ใช้อาวุธปืนรุมยิงจนเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร หลังเข้าไปเจรจาปัญหาเกี่ยวกับการวางตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี สมัยหน้า ต่อมาหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าระงับเหตุ พร้อมควบคุมตัว นายสุนทร พร้อมลูกสมุน รวม 7 คน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าคดีดังกล่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า แม้ตลอดระยะเวลา 2 วัน หลังการควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ทั้งหมดจะให้การไปในทิศทางเดียวกันในลักษณะรับสมอ้าง ทำนองว่า มูลเหตุการสังหารมาจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่าง นายชัยเมศร์ หรือ สจ..โต้ง กับ นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ อายุ 34 ปี และ นายธนศรัณย์กรณ์ เตชะธนัตถ์โชติ อายุ 32 ปี สองมือปืน เป็นเหตุเฉพาะหน้าไม่มีผู้บงการ หรือ วางแผนตระเตรียมการมาก่อนแต่อย่างใด

แต่จากแนวทางสืบสวน รวมถึงคำให้การของบุคคลใกล้ชิด ตลอดจนพยานแวดล้อมต่างๆ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คำให้การของกลุ่มผู้ต้องหา เป็นการสมอ้าง หรือ ยอมรับความผิดบางบุคคล เพื่ออำพรางมูลเหตุทางคดีที่แท้จริง หรือ ปกป้องผู้ต้องหาบางรายไม่ให้ถูกดำเนินคดี โดยเชื่อว่า การสังหาร สจ..โต้ง ครั้งนี้มีการวางแผนตระเตรียมการมาก่อนเป็นอย่างดี ไม่ใช่เหตุการซึ่งหน้า และ ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการก่อเหตุดังกล่าวอย่างแน่นอน

แนวทางสืบสวนยังพบว่า ความขัดแย้งระหว่าง สจ..โต้ง กับ นายสุนทร หรือ โกทร มีมานานหลายปี แม้ในทางสังคมทั้งคู่จะยังคงกล่าวถึงกันในลักษณะเคารพนับถือ หรือ รักใคร่กันแบบพ่อลูกบุญธรรมก็ตาม สอดคล้องกับคำให้การของพยานบุคคลโดยเฉพาะคนใกล้ชิดของ สจ..โต้ง หลายราย ที่ให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า หลัง สจ..โต้ง ได้รับการปล่อยตัวในคดีฮั้วประมูล เมื่อหลายปีก่อน เจ้าตัวก็เริ่มทำตัวห่างเหิน เข้าออกบ้านของนายสุนทร น้อยลง เนื่องจากไม่พอใจ ที่ช่วงระหว่างติดคุกนั้น นายสุนทร ไม่เคยไปเยี่ยม หรือ ให้การช่วยเหลือ ประกอบกับเวลาที่ นายสุนทร จะเรียกให้ สจ..โต้ง เข้าไปพบ ก็มีแต่เรื่องจะใช้งาน หรือ ขอเงินจาก สจ..โต้ง ครั้งละหลักล้านบาท จึงทำให้ สจ..โต้ง พยายามตีตัวออกห่างจากโกทร หรือ แยกตัวออกมา โดยจะเข้าไปเยี่ยมเยียนนายสุนทรบ้างเป็นครั้งคราว

นอกจากนี้ยังทราบว่า ก่อนหน้านี้ นายสุนทร เคยขอเงินจาก สจ..โต้ง ไปเป็นจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการเปิดโอกาสให้ ภรรยาของ สจ..โต้ง ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ก่อนที่ต่อมานายสุนทร จะขอเรียกเงินเพิ่มเป็นจำนวน 20 ล้านบาท ประกอบกับ สจ..โต้ง ทราบข่าวภายหลังว่า นายสุนทร วางแผนให้ นายกฤษฏิ์ กษมพันธุ์ รองนายก อบจ. ปราจีนบุรี หรือ สจ.อุ๊ ลงเลือกตั้งแข่งกับภรรยาของตนเอง สจ..โต้ง จึงเกิดความไม่พอใจ

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของ นายสุนทรเอง ก็มองว่า ระยะหลัง สจ..โต้ง พยายามสร้างบารมีขึ้นมาทัดเทียมกับตนเอง ประกอบกับกระแสความนิยมของ สจ..โต้ง ต่อชาวบ้านในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เริ่มมีมากกว่า รวมถึงการที่ก่อนหน้านี้ สจ..โต้ง เคยประกาศกร้าวต่อหน้านายสุนทร ว่า ได้รับแรงหนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทย ให้ส่ง ภรรยาของตนเองลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ปราจีน ในนามพรรคเพื่อไทย ทำให้ นายสุนทร เกรงว่าเลือกตั้งครั้งนี้ฝั่งของตนเองมีโอกาสเพรี่ยงพร้ำหรือพ่ายแพ้สูง และ นั่นอาจนำมาซึ่งการสูญเสียอำนาจความเป็นบ้านใหญ่ จึงทำให้รอยร้าวในใจระหว่าง สจ..โต้ง กับ นายสุนทร ขยายวงกว้างขึ้น นำมาสู่ความบาดหมางขั้นแตกหัก

นอกจากนี้ยังพบว่า ช่วงระยังหลัง ตัว สจ..โต้ง เอง ก็พยายามระมัดระวังตัวมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย หลังมีคนมาเตือนว่า กำลังถูกหมายปองเอาชีวิตจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือ บ้านใหญ่ปราจีนบุรี เนื่องจากไปทราบข่าวว่า ผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าว ได้พยายามติดต่อมือเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ให้มาลอบสังหาร แต่เรื่องเกิดแตกก่อน จึงทำให้แผนการของผู้มีอิทธิพลรายนั้น ต้องล้มเลิกไป

อย่างไรก็ตาม จากองค์ประกอบของพยานหลักฐานหลายๆอย่าง โดยเฉพาะความขัดแย้งที่ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองท้องถิ่น แต่มีเรื่องของการเมืองใหญ่ระดับประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลต่อการแย่งชิง อิทธิพล อำนาจบารมี ความเป็นใหญ่ ที่นำมาซึ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรต่างๆในพื้นที่ จึงเพียงพอที่จะเป็นมูลเหตุหรือแรงจูงใจให้นำมาสู่การวางแผนลวงสังหาร ไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะหน้าจากปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับลูกน้องนายสุนทร ตามที่กล่าวอ้าง รวมถึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการเตรียมการมาก่อนเป็นอย่างดี ก่อนที่จะมีการเรียกให้ สจ..โต้ง มาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีให้มีความแน่นหนามากพอที่จะเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ผลการผ่าพิสูจน์ศพของ สจ..โต้ง พบหัวกระสุนจำนวนมากฝังอยู่ในร่างกาย ขณะนี้อยู่ระหว่าง ตรวจพิสูจน์ทราบว่า หัวกระสุนที่พบในร่างของ สจ..โต้ง นั้นมีด้วยกันกี่ชนิด รวมถึงถูกยิงมาจากอาวุธปืนกระบอกใด ตรงกับอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกที่ตรวจยึดในที่เกิดเหตุหรือไม่ เพื่อพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่า ในช่วงเกิดเหตุนั้นยังมีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น