xs
xsm
sm
md
lg

ตัวแทนชาวบ้านกระบี่-สุราษฎร์ธานี ร้อง ยธ. เดือดร้อนที่ทำกิน-อิทธิพลในพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รมว.ยุติธรรม รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้าน จ.กระบี่ และ สุราษฎร์ธานี กระทบเกือบ 3 แสนราย ขอให้ช่วยบริหารความเป็นธรรม ทั้งเรื่องที่ดินทำกินและผู้มีอิทธิพล

วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12 ธ.ค.) ตัวแทนชาวบ้านกระบี่ และ สุราษฎร์ธานี นำโดยนายสุพจน์ บุญยัง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เข้ายื่นหนังสื่อต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมและเรียกร้อง 4 กรณี ประกอบด้วย กรณีที่ 1 นายสุพจน์ บุญยัง ร้องขอ รมว.ยุติธรรม ประสานสั่งการให้ กรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ กระทรวงมหาดไทย ให้อำนาจในการขอใช้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มซึ่งเป็นของกลางบในคดีพิเศษที่ 56/2566 ตามประกาศของกระทรวงยุติธรรม

นายสุพจน์ กล่าวว่า ได้รับการร้องขอจากสมาชิกสหกรณ์ที่มีส่วนได้เสียกับการทุจริตในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด เนื่องจากทราบว่า นิติกรกรมส่งเสริมสหกรณ์และอดีตสหกรณ์จังหงวัดกระบี่ เสนอให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ไม่รับของกลางในคดีไว้ดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ส่งผลให้ของกลางมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท จะได้รับความเสียหาย สมาชิกผู้มีส่วนได้เสียจึงร้องขอให้ตนขอรับโรงงานของกลางไปใช้ประโยชน์และบำรุงรักษา สมาชิกผู้มีส่วนได้เสียสูงถึง 53,326 สมาชิก ซึ่งหนึ่งสมาชิก คือ หนึ่งครอบครัว แต่ละครอบครัวในพื้นที่ทางจังหวัดภาคใต้ มีจำนวนเฉลี่ยประมาณครอบครัวละ 4.5 ราย ฉะนั้น มีผู้ได้รับความเดือดร้อนกับเรื่องนี้ 2-3 แสนราย ตนจึงรับที่จะดำเนินการจัดการแต่เนื่องจากยังไม่มีอำนาจเต็มจึงต้องขอให้รัฐมนตรียุติธรรมดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสีย

กรณีที่ 2 นายเทพพิทักษ์ วงศ์ไชยภาค สมาชิกสหกรณ์ผู้มีส่วนได้เสียคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ ร้องขอให้ รมว.ยุติธรรม สั่งการให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 22/2567 กรณีบุกรุกที่ดินหมดสัญญาอนุญาตของนายประพาส เนื่องจากทั้ง 2 คดี คือ คดี พิเศษ 56/2566 และคดีพิเศษ 22/2567 กลุ่มผู้กระทำความผิดเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน และต้องการพนักงานสอบสวนทำงานเชิงรุกดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ละเว้นผู้กระทำความผิดและส่งพื้นที่คืนให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ บริหารจัดการพื้นที่ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการยังชีพ และให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการทวงเงินค้างชำระจากผู้ได้รับสัญญาเช่าแล้วไม่จ่ายเงินค่าเช่า มากกว่า 20 ล้านบาท

กรณี 3 นายสมใจ นวนนุ่น ร้องขอให้ รมว.ยุติธรรม สั่งการให้อธิบดีกรมบังคับคดี บังคับคดีที่ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ที่ดินกรมป่าไม้ ที่หมดสัญญาสัมปทานเช่า ให้นำมาจัดสรรให้ผู้ยากไร้ใช้ประโยชน์ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

กรณีที่ 4 นายจิตพงษ์ อภิรักษ์พงไพร ผู้ประสานเครือข่ายที่ดินทำกินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้องขอให้สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสืบสวนสอบสวน ที่ดินหมดสัญญาเช่า ที่เป็นพื้นที่กรมป่าไม้ ที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ราชพัสดุเนื่องจากมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้าบุกรุกครอบครอง จำนวน 2 แปลง จำนวน กว่า 3,000 ไร่ และในกรณีเดียวกันนายมนัญชัย โชคอารี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ตำบลคีรีวงศ์ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ได้ร้องขอให้ รมว.ยุติธรรม สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสืบสวนจับกุมผู้มีอิทธิพล ที่ดินของนิคมสหกรณ์อ่าวลึก เนื้อที่จำนวน 3,100 ไร่ ที่นายวิศิษฎ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เพิ่งต่ออนุญาตสัญญาให้บริษัทมหาชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามที่ดินนักการเมืองระดับชาติ แต่หมดสัญญาอนุญาตไปเมื่อวัน 27 เม.ย.67 กระทั่งปัจจุบันนี้จะสิ้นปี 2567 กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลครอบครองและเก็บผลอาสิน ทั้งที่ผลอาสินนั้นควรจะเป็นรายได้เข้ารัฐแต่กรมส่งเสริมสหกรณ์ปล่อยปละละเลย เมื่อติดตามจากสหกรณ์จังหวัดก็ได้คำตอบเพียงว่ารายงานไปกรมส่งเสริมแล้วรอการสั่งการ ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลเก็บผลอาสินและรังแกชาวบ้านในพื้นที่ จึงร้องขอให้ รมว.ยุติธรรม สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับผู้มีอิทธิพลและเรียกร้องให้นำที่ดินมาจัดสรรให้ประชาชนในพื้นที่

ด้าน รมว.ยุติธรรม สั่งการให้หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย และแจ้งตัวแทนชาวบ้านว่าจะลงไปดูพื้นที่


กำลังโหลดความคิดเห็น