ศาลอาญาไม่เพิกถอนประกัน"ไอซ์-รักชนก“ คดีหมิ่นเบื้องสูง จำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา หลังนักวิชาการอิสระ ร้องให้ไต่สวนโพสต์เฟซบุ๊ก ทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราว
เมื่อเวลา10.00 น.วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว คดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 หมายเลขดำอ.683/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ รัชนก สส.กทม.พรรคประชาชน(ปชน.) เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
โจทก์ฟ้องสรุปว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน จำเลยหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระมหากษัตริย์ โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยจำเลยใช้บัญชีทวีตเตอร์ “ไอซ์ หรือ @nanaicez” ของจำเลยโพสต์ข้อความดังกล่าว
โดยคดีนี้ศาลอาญา พิพากษาจำคุกน.ส.รัชนก จำนวน 2 กระทงๆละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปีไม่รอลงอาญา ซึ่งศาลอาญา อนุญาตให้น.ส.รัชนก มีประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์คดีโดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีก
ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.2567 นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ที่ปรึกษาธุรกิจและนักวิชาการอิสระ ได้ยื่นคำร้องขอตรวจสอบหลักทรัพย์ และคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัว น.ส.รักชนก ศรีนอก เนื่องจาก ระหว่างการประกันตัว น.ส.รัชนกได้โพสต์ข้อความลงในเฟซ บุ้คส่วนตัวพาดพิงสถาบันฯ ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขการประกันตัว
ทั้งศาลได้มีการไต่สวนแล้วนัดฟังคำสั่งในวันนี้ ซึ่งน.ส.รักชนก หรือไอซ์ เดินทางมาฟังคำสั่งศาล
ศาลพิจารณาคำร้องเเละไต่สวนเเล้วมีคำสั่งยกคำร้อง และกำชับให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวอย่างเคร่งครัด
น.ส.รักชนก ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ว่า ศาลยกคําร้องไม่เพิกถอนประกัน เรื่องนี้ผู้ร้องยกเหตุผล 2 ข้อคือ หลังจากที่นายชัยธวัช ตุลาธนหลุดพ่นจากการเป็น ส.ส. พรรคก้าวไกล ทําให้มีปัญหาเรื่องหลักประกันซึ่งทางตนได้เปลี่ยนเป็นหลักประกันเป็นเงินสดแล้ว จํานวนเท่าที่ศาลแจ้งเอาไว้
ข้อต่อมาคือ ตนได้ละเมิดข้อกำหนดของศาล โดยเอาโพสต์ในเฟสบุ๊กเกี่ยวกับการตั้งคําถามกับกองทัพ เรื่องพลทหารไปซักกางเกงในให้เมียนายทหาร เรื่องเกี่ยวกับรณรงค์การยกเลิกเกณฑ์ทหาร เป็นการด้อยค่ากองทัพ ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นจอมทัพไทย ดังนั้นการด้อยค่าพลทหาร เป็นการด้อยค่ากองทัพก็คือกระทบกระเทือน เชื่อมโยง ถึงคดีมาตรา 112 แต่ศาลได้พิพากษาว่า เรื่องหลักทรัพย์ ได้มีการเปลี่ยนหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่โพสต์เกี่ยวกับกองทัพก็เป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป จึง มีคำสั่งยกคำร้อง
วันนี้ศาลไม่ได้เพิ่มข้อกําหนดใดๆ ดังนั้นตนคิดว่าในฐานะผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกมา ตนไม่ควรที่จะเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะว่าตนมีหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์หลายๆเรื่อง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เป็นผลประโยชน์สาธารณะ แล้วทุกอย่างที่เราพูดไป คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชนทุกคนการที่ตนพูดถึงเรื่องการใช้งบประมาณ ภาษีให้คุ้มค่าประชาชนที่รักสิทธิเสรีภาพ รักในความถูกต้องก็น่าจะเข้าใจว่าสิ่งที่ตนพยายามสื่อสาร
ตนมองว่าการฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องไร้สาระและกระทบกับเวลาในการทํางานในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎรการ ที่ต้องออกจากประชุมมา หรือว่าจะต้องเลื่อนการประชุม มาทําคดีเหล่านี้ เดี๋ยวจะมีคําสั่งศาลอุทธรณ์ออกแน่นอยู่แล้ว คือคุณก็ให้เราทํางานให้เต็มที่ไปก่อน เพราะว่าใครๆก็รู้ว่าถ้าอยู่พรรคนี้ มันชัวร์อยู่แล้ว คุณจะทำไปทำไมให้เสียเวลาทางสังคม แทนที่สื่อจะไปงานข่าวที่สําคัญมากกว่านี้ ซึ่งมองว่ามีการจ้องจะเล่นงานพรรคประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองยังไงกับการที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องคำพิพากษาในศาลชั้นต้นให้จำคุก โดยไม่รอลงอาญา จะเป็นการขัดจ่อจริยธรรมนักการเมืองหรือไม่ น.ส.รักชนก ตอบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่ก็คาดหวังว่าในชั้นอุทธรณ์ ตนจะได้รับความเป็นธรรม เพราะตนก็ได้ต่อสู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสามารถต่อสู้ได้ โดยตนได้ยื่นอุทธรณ์ไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้วและขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ทราบว่าจะมีคำตัดสินเมื่อใด
