ตร.จ่อออกหมายเรียก "เกลิน ธัญรดี" อดีตดารา-เน็ตไอดอล 3 ข้อหาหนัก หลังเจ้าหน้าที่นำกระเป๋าแบรนด์เนมและนาฬิกาหรูที่หลอกขายให้ลูกค้าไปตรวจ พบเป็นของปลอมทั้งหมด
จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 67 ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายชวินทร์ ธวัชราภรณ์ หรือทนายหวาย พร้อมด้วย น.ส.ดวงพร สุภนาม หรืออาจารย์หญิง อายุ 46 ปี หมอดูสักลายมือเศรษฐี นางสุนิสา เอกวิทยาเวชนุกูล หรือครูเจี๊ยบ ผู้อำนวยการโรงเรียน The Catch Fake Brandname/ตัวแทน บจก.ทีซีเอฟ เวริฟาย (บริษัทรับตรวจสอบของแบรนด์เนม แท้-ปลอม) และกลุ่มผู้เสียหายอีกหลายราย เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อเอาผิดกับอดีตดาราสาว-เน็ตไอดอล เกลิน ธัญรดี ที่หลอกขายนาฬิกา และกระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
วันนี้ (7 ธ.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.ดวงพร สุภนาม หรืออาจารย์หญิง เดินทางติดตามความคืบหน้าคดี และเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.วิทวัส สายอ่อง รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.บางบัวทอง พร้อมนำหลักฐานแชตอดีตดาราช่องมากสีให้ผู้สื่อข่าวหลังจากถูกขู่ฟ้องข้อหา ยักยอกทรัพย์ และมีข้อความทิ้งท้ายว่า ”เจอกันตามหมายศาลนะคะสวัสดีคะ“
น.ส.ดวงพร กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะดาราสาวแจ้งความตนกลับว่าตนเอากระเป๋าไปไม่คืน แต่เขาไม่รู้ว่ากระเป๋าทั้งหมดอยู่กับเจ้าหน้าที้ตำรวจตั้งนานแล้ว ดาราสาวได้แจ้งความที่ออกสื่อไปครั้งที้แล้ว ตนรู้สึกว่าเขาทำผิดต่อสังคมและเป็นคนที่มีชื่อเสียง แต่ก็ยังทำแบบเดิมไม่ได้เกรงกลัวกฎหมาย และใช้ชีวิตปกติ ไม่ยอมสำนึกในสิ่งที่ทำ ยังเห็นว่ามีโพสต์รับงานแสดงอยู่ ตนจึงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะเขาไม่ยอมรับและไม่สำนึกเอง ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการออกหมายเรียกทางคดีอาญา 3 ข้อหา ได้แก่ ฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมพ์ และปลอมแปลกเอกสาร ซึ่งไม่มีความสำนึกเลยตอนนี้ก็มีผู้เสียหายเข้ามาเพิ่มเรื่องกระเป๋าที่โดนหลอก เป็นของปลอม ทั้งยังส่งแชตขู่ว่าได้ไปฟ้องร้องตนต่อศาลในข้อหายักยอกทรัพย์ และพูดถึงตนว่าได้รับหมายศาลหรือยัง โดยจะดำเนินคดีตนทั้งแพ่งและอาญา อีกด้วย สุดท้ายนี้ตนจึงอยากฝากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อคนมีชื่อเสียง ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพ ดูให้ดีก่อนจะตัดสินใจซื้อของ
ด้าน พ.ต.ท.วิทวัส เผยว่า ทางด้านคดีขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายเรียกอดีตดาราสาว ในข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา ได้แก่ ฉ้อโกง , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ , ปลอมแปลงเอกสาร ส่วนของกลางกระเป๋าแบรนด์เนม 5 ใบ และนาฬิกาหรู 1 เรือน ที่ผู้เสียหายมามอบให้ตำรวจทั้งหมด 6 รายการ ตอนนี้อยู่ที่ตำรวจทั้งหมดขณะนี้ได้นำส่งตรวจสถาบันเรียบร้อยแล้ว ผลอย่างเป็นทางการออกมาแล้วว่า ของกลางทั้งหมด 6 รายการเป็นของปลอม