ผู้บริหารคลินิกเสริมความงามชื่อดังขับเบนซ์ชนสาวขี่ จยย.ตกสะพาน ย่านพระรามสี่ เสียชีวิต ยอมรับเมาแล้วขับ หลังไปกินดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน ยินดีช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้ตาย
จากกรณีนายปุณณมี อายุ 44 ปี ผู้บริหารคลินิกเสริมความงามชื่อดัง เมาแล้วขับรถหรู ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E220d ชนนางสาวฉวี อายุ 44 ปี ตกสะพานต่างระดับย่านพระรามสี่ เสียชีวิตขณะเดินทางมาจากชลบุรีเพื่อซื้อของกิ็ปช็อป ย่านสำเพ็งไปขาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. ตามที่เสนอข่าวนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (5 ธ.ค.) ที่ สน.ปทุมวัน นายปุณณมี เปิดเผยยอมรับว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนไปกินดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนและดื่มสุรามาพอประมาณ ซึ่งสถานที่ดื่มเป็นร้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ซึ่งปกติแล้วพอดื่มเสร็จก็ขับรถกลับบ้านใช้เส้นทางนี้ตามปกติอยู่แล้ว แต่หลังดื่มเสร็จตนขับรถมาข้ามสะพานข้ามแยก แต่จำความเร็วที่ขับมาไม่ได้ แต่ไม่ได้ขับเร็วมาก ยอมรับว่าบนสะพานค่อนข้างมืดมากทำให้ตนมองไม่เห็นผู้ตายที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่กลางสะพานพอดี ทำให้พุ่งชนผู้ตายจนกระเด็นตกสะพานดังกล่าว
ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนยังพอมีสติโทรเรียกประกันมาที่เกิดเหตุอยู่เลย แล้วก็วานให้ประกันช่วยพาตนไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เพื่อให้การกับพนักงานสอบสวนอีกด้วย ยอมรับว่า ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้คิดหนีไปไหน ยอมรับผิดทุกประการเพราะมันเป็นความผิดของตนจริงๆ
โดยช่วงบ่ายวันนี้ตนได้พบกับญาติของผู้ตายและได้เข้าไปทำการขอโทษไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเลย โดยเหตุที่เกิดนั้นเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของตน ยินดีที่จะช่วยเหลือในเรื่องค่าดำเนินการส่งศพไปยังจังหวัดร้อยเอ็ดและค่างานศพของผู้ตายทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้จ่ายเงินชดใช้เยียวยาเบื้องต้นไปแล้ว หลังจากนี้ตนจะบินไปที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อร่วมงานศพของผู้ตายด้วยตนเอง ส่วนเรื่องการเยียวยาเพิ่มเติมหลังจากนี้คงแล้วแต่ทางครอบครัวของผู้ตายว่าอยากจะเรียกร้องเท่าไรก็ให้เสนอมาที่ตนได้เลยยินดีเยียวยาทุกประการ
ทั้งนี้ยืนยันว่าตนใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ เหตุที่หลังดื่มเสร็จไม่ยอมนั่งแท็กซี่กลับ เพราะพยายามโบกเรียกรถแท็กซี่แล้ว แต่ไม่มีแท็กซี่คันไหนจอดรับตนเลยในช่วงเวลานั้น จึงต้องขับรถยนต์ส่วนตัวของตนกลับบ้านจนเกิดเหตุดังกล่าว สุดท้ายนี้หลังเกิดเหตุตนตั้งสติได้ และสัญญากับตัวเองว่า จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ไปตลอดชีวิต ผมผิดไปแล้วสำนึกผิดจะแก้ไขด้วยตนเองเป็นอย่างแรก ยินดีช่วยเหลือครอบครัวของผู้ตาย
ด้านนาย จุลเมธ สอนสุทธิ์ ทนายความของผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุได้ไหว้ขอโทษและแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 70,000 บาท แบ่งเป็นเงินค่าเดินทางครอบครัว 50,000 บาท และเงินค่าส่งศพกับ จ.ร้อยเอ็ด 20,000 บาท พร้อมรับปากว่า จะดูแลค่าใช้จ่ายในงานศพทั้งหมด พร้อมเดินทางไปร่วมงานศพที่ จ.ร้อยเอ็ด ด้วย
ส่วนประเด็นเรื่องเมาแล้วขับ ทนายความ ชี้แจงว่า ผู้ก่อเหตุไปร่วมงานเลี้ยง และกำลังขับรถกลับบ้านย่านปทุมวัน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงทางขึ้น และไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขี่อยู่ข้างสะพาน เลยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ส่วนในเรื่องทางคดี ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับและขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยผู้ก่อเหตุยอมรับผิดและพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการการดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งวันนี้ตัวผู้ก่อเหตุก็ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ ส่วนจะนำตัวส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการเมื่อไหร่ คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์หน้าหรือโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีปัญหา โดยคดีดังกล่าวจะอยู่ภายใต้เขตอำนาจของศาลอาญากรุงเทพใต้