รอง ผบช.ก.เผย อนุ ป.ป.ช. จ่อไม่ชี้มูลความผิด "จ." มั่นใจพยานหลักฐานแน่นหนา ยันพบเส้นเงิน ลูกน้องชื่อ "ค" โอนให้ทางไลน์ เชื่อหากป.ป.ช.ชุดใหญ่ เห็นข้อมูลแล้วน่าจะมีความเห็นต่างออกไป แฉพบอีกนำเงินไปซื้อที่ดินใน จ.ปทุมธานี 50 ไร่ ขณะนี้ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว
วันนี้ ( 4 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ชุดเล็กพิจารณาว่า บุคคลซึ่งมีชื่อ จ. ไม่มีความผิด แต่ความผิดจะไปอยู่ที่ลูกน้องซึ่งมีชื่อ ค. ว่า เรื่องของ จ. ขณะนี้ตนมีข้อมูลจากชุดพนักงานสอบสวน ซึ่งมีข่าวว่าอนุกรรมการชุดเล็กจะไม่ชี้มูล จ. จะชี้มูลแค่ ค. ทั้งนี้ชุดพนักงานสอบสวนมองว่าพยานหลักฐานที่ได้ส่งไปเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มีการเชื่อมโยงและตรวจสอบได้ถึงตัวตนของ จ. โดย จ. ได้นำเงินในบัญชีไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า หากข้อมูลเหล่านี้เชื่อมโยงแล้วไม่ถึง จ. และไม่ได้รับการชี้มูลก็ต้องพิจารณาหลายอย่าง เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งตัว ค. จะมารับเอง ค. จะมีเงินจากไหน ในเมื่อ ค. ได้เงินมาแล้วรวมเงินทั้งหมดโอนเข้าบัญชี จ. โดยผ่านแอปพลิเคชันไลน์พร้อมกับชี้แจงรายละเอียด ซึ่งเส้นของไลน์นั้นก็เป็นเส้นวิทยาศาสตร์โอนเข้าไปในเส้นของไลน์ ปุถุชนคนธรรมดาก็รู้ว่าใครเกี่ยวข้อง เพราะ ค. เป็นคนสนิทของ จ. จึงไม่กล้าทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง ซึ่งพอโอนเงินเสร็จ จ. ก็สั่งให้ ค.ทำอย่างอื่นต่อตนมองว่ามันจะไม่เกี่ยวกันอย่างไร
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ขอเรียนไปถึงเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่ทำงานในเรื่องนี้ เราทำงานร่วมกันกับ ป.ป.ช. และมองว่า ป.ป.ช. เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ และอยากให้ ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปรามทุจจริต และอยากจะมองเห็นประชาชนคนไทยทุกคน ได้รับความเป็นธรรมจากการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐและไม่อยากเห็นความเหลื่อมล้ำเรื่องกฎหมายที่จะยกเว้นคนที่กระทำความผิดโดยรวมศูนย์ความผิดไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง ตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะกระทบกับหน่วยงาน
“ครั้งหนึ่งตำรวจตกลงไปอยู่ในส่วนที่ต่ำสุดและตอนนี้กำลังกู้คืนศักดิ์ศรีของตำรวจและประชาชนตาดำๆ จะได้รับความยุติธรรมเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กังวล เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่ตำรวจตกต่ำเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจบางคนทำให้ชื่อเสียงของตำรวจตกต่ำด้วย และส่วนนี้กว่าจะฟื้นฟูขึ้นมาได้มันใช้เวลา และหากต้องกลับไปอยู่ในสภาพนั้นอีกผมก็มีความกังวล หากถามว่ากลัวหรือไม่ที่จะเจอกับปัญหาอะไรก็ไม่รู้สึกกลัว ยืนยันว่าสอบสวนกลางและผมไม่มีทางกลัวอยู่แล้ว ทั้งนี้ผมเคารพความคิดของคณะกรรมการ และเชื่อว่าหากคณะกรรมการชุดใหญ่ ป.ป.ช. เห็นข้อมูลแล้ว ซึ่งผลน่าจะมีความเห็นต่างออกไปจากที่เป็นข่าว” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
รอง ผบช.ก.กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้ส่งสำนวนคดีแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จส่งใน ป.ป.ช.แล้ว กรณีนาย จ.นำเงินไปซื้อที่ดินจำนวน 50 ไร่ ไร่ละล้านเศษ ใน จ.ปทุมธานี ในชื่อบริษัทของเมีย จ.จากนั้นโอนไปในชื่อแม่เมีย จ. ซึ่งคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน