จากกรณีที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 ไปเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับรัฐมนตรีศึกษา และผู้นําด้านการศึกษาจากประเทศ สมาชิกอาเซียน อาเซียนบวกสาม (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) และอาเซียนบวกแปด (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย) มารวมตัวกันเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ และแลกเปลี่ยนแนวทางในการพัฒนาการศึกษา ซึ่งพูดคุยกัน ภายใต้หัวข้อ “การพลิกโฉมการศึกษา ในยุคดิจิทัล” มุ่งเน้นการรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ที่จะหล่อหลอม อนาคตการศึกษาในอาเซียนโดยเฉพาะ
กพฐ.จึงได้มอบหมายคณะทำงาน สพฐ. ให้นำร่างกรอบหลักสูตรดังกล่าวมาพัฒนาต่อยอดและให้นำสื่อ เทคโนโลยีดิจิทัลหรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยให้ครูสามารถจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น สำหรับการนำหลักสูตรใหม่ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน ทาง กพฐ. ได้พิจารณาว่าจะเริ่มใช้หลักสูตรใหม่นี้ในปีการศึกษา 2568 (พฤษภาคม 2568) ในสถานศึกษาที่มีความพร้อมและสมัครใจ โดยใช้ในระดับชั้นปฐมวัยและชั้นประถมศึกษาตอนต้นก่อน และมีแผนขยายผลการใช้ให้ครอบคลุมระดับประถมศึกษาตอนปลายและระดับมัธยมศึกษาตอนต้นต่อไป ในปีการศึกษา 2569 (พฤษภาคม 2569)
ส่วนแนวทางและหลักการของหลักสูตรใหม่ คือ มุ่งพัฒนาความสามารถตามพัฒนาการของผู้เรียน 5 ช่วงวัย ดังนี้คือ 1.ระดับปฐมวัย มีพัฒนาการสมวัย 2.ประถมศึกษาตอนต้น มีพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดี 3.ประถมศึกษาตอนปลาย มีพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่ดี 4.มัธยมศึกษาตอนต้น ค้นพบความสนใจ ความชอบและความถนัด และ 5.มัธยมศึกษาตอนปลาย เส้นทางสู่อาชีพ รวมถึงการจัดโครงสร้างเวลาเรียนที่ยืดหยุ่น ตามบริบทหรือความต้องการของสถานศึกษา เน้นการประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ รายงานผลการเรียนด้วยระดับคุณภาพที่อธิบายความสามารถของผู้เรียน และจัดการเรียนรู้ด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (ACTIVE LEARNING) ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ทันสมัย เช่น AI, แหล่งเรียนรู้, สื่อทันสมัย เพื่อต่อยอดพัฒนาการของผู้เรียนให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ สามารถเลือกเรียนสิ่งที่ชอบ และประกอบอาชีพที่ใช่ในอนาคต
ในโอกาสนี้ นายอิศรากรณ์ สุวรรณทิพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียวาณิช จำกัด ผู้ผลิตสื่อการเรียนการสอนเด็กปฐมวัยชั้นนำของเมืองไทย ได้แสดงความคิดเห็นว่า การพลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัลที่จะหล่อหลอมอนาคตการศึกษาให้เด็กไทย โดยเฉพาะการเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมสําหรับโลกการทํางานจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งสำคัญ ตนในฐานะคนในวงการศึกษา ผลิตและจำหน่ายสื่อการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย พัฒนาการสมวัย ให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลง และใช้ทักษะชีวิตได้อย่างมีความสุข มองว่า หลักสูตรการศึกษาใหม่ของประเทศไทยที่จะดึงเทคโนโลยี AI มาใช้หรือมาเสริมทัพในระบบการศึกษายุคดิจิทัล สำหรับระดับชั้นปฐมวัย จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้เด็กมีพัฒนาการสมวัยตามความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น
ด้าน คุณกิรสิฐ์ญา สุวรรณทิพย์ รองประธานกรรมการบริหารฯ กล่าวว่า เราจึงไม่อาจนิ่งเฉย จึงปรับหลักสูตร ดึง ai เพื่อพัฒนาสื่อเสริมประสบการณ์ปฐมวัย สำหรับเป็นเครื่องมือช่วยให้ครูผู้สอน ได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย สามารถจัดกระบวนการ จัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เช่นกันด้วยเหตุที่ว่า เด็กปฐมวัย เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างมากต่อการพัฒนา การวางระบบการศึกษาที่เข้มแข็งควบคู่กับการได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย จะกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ที่จำเป็นต่อไปในอนาคตของตัวเด็ก จนสามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการคว้าโอกาสในชีวิต เป็นผู้ใหญ่ที่เจริญเติบโตอย่างดี มีคุณภาพ และอยู่ร่วมกันในสังคม อย่างมีความสุข.
