xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “หนู วัดไผ่เงิน” หัวจ่ายยาเสพติด หนีคดี 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับ “หนู วัดไผ่เงิน” ระดับหัวจ่ายยาเสพติดชุมชน ย่านบางคอแหลม หนีคดี 10 ปี

วันนี้ (29 พ.ย.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวนายกันต์ หรือ หนู วัดไผ่เงิน อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.299/2557 ลงวันที่ 19 พ.ค. 57 ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 210 ชุมชนวัดไผ่เงิน ซ.จันทน์ 43 แยก 22-3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ นายกันต์ หรือ หนู วัดไผ่เงิน เป็นระดับหัวจ่ายยาเสพติดในชุมชน ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้ามาตรวจค้นในบ้านของหนู วัดไผ่เงิน แต่เจ้าตัวไหวตัวทัน ปีนหน้าต่างมุดหนีออกไปได้อย่างฉิวเฉียด แต่ได้ทิ้งของกลางยาเสพติดจำนวนมาก และบัตรประจำตัวประชาชนไว้ในห้องพัก ซึ่งต่อมาก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับในเวลาต่อมา โดยหายตัวไปเป็นเวลากว่า 9 ปี กระทั่งล่าสุดช่วงปี 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสว่า หนูได้กลับมากบดาลอยู่ในชุมชนวัดไผ่เงิน จึงได้มีการนำกำลังเข้าไปไล่ล่าจับกุมกว่าหลายครั้ง แต่ก็คลาดกันอย่างฉิวเฉียดอยู่ตลอด เพราะคนร้ายมีดีกรีเป็นถึงน้องชายผู้นำชุมชน ในชุมชนมีพวกคอยสอดส่องดูเจ้าหน้าที่ให้หนู วัดไผ่เงิน อยู่ตลอด ทันทีที่เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าชุมชนคนร้ายก็จะไหวตัวและปีนออกทางหน้าต่าง แล้วใช้ความชำนาญในพื้นที่ลัดเลาะไปหลบในบ้านของพรรคพวกในชุมชน เรียกได้ว่า สมรภูมิของคนร้ายสุดจะได้เปรียบ

กระทั่งวันนี้ (29 พ.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สั่งการให้ระดมกวาดล้างยาเสพติดครั้งใหญ่ทั่วประเทศ โดยรุ่งสางเวลาประมาณ 06.30 น. พล.ต.ท.สยาม สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังชุดสืบนครบาลวางแผนเด็ดปีกเอเยนต์ตัวแสบรายนี้ให้ได้ โดยนำกำลังกว่า 20 นาย นำหมายค้นบุกเข้าไปปิดล้อมในชุมชนวัดไผ่เงิน โดยคราวนี้ชุดปฏิบัติการใช้ยุทธวิธีแบบย่องเงียบ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ระหว่างที่ ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. กำลังปีนหน้าต่างตามสารวัตรแจ๊ะ เพื่อดักหลังทางหนีคนร้าย ก็เกิดสะดุดตกหน้าต่างจนทำให้กระดูกข้อเท้าซ้ายแตก แต่ภารกิจไม่อาจล้มเลิก บุกต่อจนสามารถจับกุมคนร้ายได้คาเตียงนอน

ในชั้นจับกุม นายกันต์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่บ้านของตน ซึ่งมียาเสพติดอยู่ในบ้านจำนวนมาก ตนจึงมุดกระโดดออกทางด้านหลังและหลบหนีไป โดยในห้องพักนั้นตนได้ทิ้งบัตรประชาชนเอาไว้ จึงทำให้ตำรวจออกหมายจับตน โดยที่ตนเองเลือกที่จะหนีสุดชีวิต เพราะยาเสพติดในห้องของตนนั้นมีจำนวนมาก โดยตลอด 10 ปี แห่งการหนีนั้นลำบากเสียยิ่งกว่าติดคุก โดยช่วงแรกของการหลบหนี ตนได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี โดยไปพึ่งใบบุญคนรู้จัก ซึ่งเป็นเจ้าของสวน โดยไปอยู่เหมือนเป็นลูกจ้างรายวันทำสวนทำไร่ แต่เมื่อทำไปได้ 2-3 ปี เริ่มรู้สึกทรมาน เพราะตนเองได้ถูกต่อว่าตลอดว่าเป็นคนขี้เกียจ จึงตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่ที่ กทม. แต่ทางบ้านก็แจ้งให้ยังไม่ต้องมา เพราะยังมีตำรวจตามจับอยู่ จึงกล้ำกลืนฝืนทนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 9 ของการหลบหนี ตนเองทนไม่ไหวจึงกระทั่งได้นำน้ำเฮลบลูบอย ยาพารา และสารอื่นๆ ผสมกับน้ำยาไปฉีดพืชพรรณในไร่จนพืชตายทั้ง 100 ไร่ จนเจ้าของไร่ถึงกับเจ๊ง แล้วตนก็หนีกลับมาที่กรุงเทพฯ โดยในระยะเวลา 1 ปี ก่อนจับกุม ตนเองก็หลบๆซ่อนๆ อยู่ในชุมชนวัดไผ่เงิน และคอยให้พรรคพวกและญาติๆ คอยสังเกตการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจเวลาเข้ามาในชุมชน หากมีเจ้าหน้าที่มาก็จะมีคนแจ้งแล้วตนเองก็จะมุดหลบหนีซอกแซกเข้าไปในชุมชน ทำให้ตำรวจไม่สามารถจับตัวตนเองได้ แต่สุดท้ายก็ถูกจับได้ ยอมรับว่า ชีวิตที่ผ่านมาลำบากอยู่ในคุกยังสบายกว่า ยังเสียดายว่าถ้าตนเองยอมมอบตัวตั้งแต่แรกป่านนี้คงพ้นโทษและได้ออกมาใช้ชีวิตไปนานแล้ว ตอนนี้หนีมาแล้ว 10 ปี ต้องหนีอีก 10 ปี จึงจะหมดอายุความ กลับตัวก็ไม่ได้ จะไปต่อก็ไปไม่ถึง

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า คนร้ายรายนี้เป็นคนร้ายรายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสืบสวนติดตามมานานแล้ว แต่ไม่สามารถจับกุมได้โดยง่าย เพราะมีคนในชุมชนคอยให้ความช่วยเหลือคนร้ายอยู่ตลอด สร้างความยากลำบากให้กับเจ้าหน้าที่ ซ้ำยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่เลิกรา ต้องใช้มาตการขั้นเด็ดขาด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นอันดับแรก และหากท่านใดมีเบาะแสสามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม. โดยภายหลังจับกุมขยายผลได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ดำเนินคดีต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น