“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ตอน 'เพื่อไทย' หลอนม็อบ งัดลูกไม้เดิม ดิสเครดิต 'สนธิ'
สถานการณ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลหรือแม้การเมืองในสภาผู้แทนราษฎร แม้จะไม่ได้ระคายผิวพรรคเพื่อไทยเท่าใดนัก เพราะถึงอย่างไรเสียพรรคร่วมรัฐบาลในเวลานี้คงต้องเลือกกอดคอลงเรือลำเดียวกันต่อไป เพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ให้นานที่สุด แต่พอการเมืองนอกสภาเริ่มขยับ ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยออกอาการเต้นและสั่นไหวพอสมควร โดยเฉพาะกับความเคลื่อนไหวของ นาย'สนธิ ลิ้มทองกุล' ในเวลานี้
เวทีการให้ความรู้แก่ประชาชน 'ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เพื่อชาติ' นอกจากจะเป็นการจุดประกายให้กับสังคมแล้ว ยังทำให้เห็นไส้ในของพรรคเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัดว่ายังไม่มีความพร้อมในการรับมือกับการเมืองนอกสภาอย่างเห็นได้ชัด หรือที่เรียกว่าออกอาการสันหลังหวะให้เห็นกันไปเลย
โดยเฉพาะท่าทีที่ออกมาจาก 'ภูมิธรรม เวชยชัย' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
""ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะวันนี้ประชาชนเดือดร้อนค่อนข้างมาก การปิดเมืองหรือการชุมนุมเหมือนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ใครถูกหรือผิดยังไม่ต้องพูดถึงก็ได้ แต่ผลเสียหายกับประเทศชาติ มันรุนแรงเหลือเกิน อยากให้คำนึงถึงตรงนี้ไว้มากๆ" คำพูดของภูมิธรรมที่ตอบโต้กรณีที่สนธิส่งสัญญาณว่าหากจำเป็นก็จะลงถนนเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต
ทั้งนี้ ต้องบอกว่าพรรคเพื่อไทยออกอาการตีตนไปก่อนไข้อย่างชัดเจน เพราะสิ่งที่ 'สนธิ' พูดถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนั้นมาจากการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่มาสัมภาษณ์เป็นหลัก โดยไม่ได้เป็นกรณีที่อดีตแกนนำเสื้อเหลืองรายนี้ประกาศออกมาเองตั้งแต่ต้น ว่าจะลงถนนแต่ประการใด
ดังนั้น คำอธิบายของภูมิธรรมนั้นถือได้ว่าเป็นการดิสเครดิตการเคลื่อนไหวของการเมืองภาคประชาชนจนเกินไป
จริงอยู่ที่ภูมิธรรมย่อมออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนั้นได้ แต่นั่นก็เป็นลักษณะของการพูดความจริงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะในอดีตที่มีประชาชนจำนวนมากพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองออกมาขับไล่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะการบริหารงานของรัฐบาลในเวลานั้นขาดความโปร่งใส และเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง
ซึ่งในเวลาต่อมามีหลายคดีที่ได้ขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถึงขนาดที่ศาลฎีกาฯได้พิพากษาเป็นเด็ดขาดว่ามีความผิดและนำไปสู่การยึดทรัพย์เป็นจำนวนมาก
หากรัฐบาลเวลานั้นมีความโปร่งใสและมือสะอาดจริง แน่นอนว่าประชาชนย่อมไม่มีความชอบธรรมออกมาขับไล่รัฐบาล แต่เมื่อความเป็นจริงก็เป็นอย่างที่ทุกคนเห็น จึงย่อมเป็นสิทธิของประชาชนที่จะออกมากู้บ้านกู้เมืองได้ตามกรอบของรัฐธรรมนูญ
ปัจจุบันก็เช่นกันจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก 'แพทองธาร ชินวัตร' ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีความชอบธรรมประมาณหนึ่งในการบริหารประเทศต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องให้กับประชาชน ซึ่งถ้ารัฐบาลเดินหน้าทำงานตามที่สัญญาไว้กับประชาชน ก็ย่อมเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับรัฐบาลเอง แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น รัฐบาลเองก็ไม่อาจอยู่ในอำนาจต่อไปได้
แต่ทว่า อีกด้านหนึ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้พบว่าเกิดความไม่ชอบมาพากลในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ปริศนาดำมืดชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจที่ผู้มีอำนาจหลายคนพยายามโยนกันไปโยนมาไม่ออกมาอธิบายให้สังคมคลายข้อสงสัย ไปจนถึงเรื่องใหญ่ระดับที่เป็นข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาผ่านปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับMOU2544 ซึ่งหลายฝ่ายก็ยังหวาดระแวงว่าผลประโยชน์ของชาติจะได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสมหรือไม่
ถ้ารัฐบาลทำทุกอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ไม่ทำตัวเป็นศรีธนญชัยจนเกินไป การเมืองนอกสภาย่อมไม่มีพลัง แต่ทุกวันนี้มีคำถามว่ารัฐบาลทำให้ประชาชนไว้วางใจได้อย่างสนิทใจหรือไม่ ดังนั้น สิ่งแรกที่รัฐบาลควรทำ คือ เลิกโทษคนอื่น เลิกโทษนิติสงคราม เพราะยิ่งคนในรัฐบาลแสดงท่าทีลักษณะนี้ออกมาเท่าไหร ก็ยิ่งสะท้อนถึงสนิมเนื้อในรัฐบาลมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นการทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยกลัวการเมืองนอกสภาจนขี้ขึ้นสมองนั่นเอง
------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
**ขอแนะนำ ThaiTimes โซเชียลมีเดียของคนไทย
ไม่ปิดกั้นเนื้อหา - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุด ได้อย่างอิสระ
มีให้ Download ได้แล้วทั้งในระบบ iOS และใน Android
iOS :https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
Android :https://play.google.com/store/apps/details...
และhttps://thaitimes.co