MGR Online - ตัวแทนจำหน่ายสินค้า "ดิไอคอน" ร้องกระทรวงยุติธรรม ถูกระงับบัญชีธนาคาร ชี้ "ดีเอสไอ" ไม่สอบพยานแต่ให้กรอกเอกสารแทน เลือกปฏิบัติสองมาตรฐาน
วันนี้ (26 พ.ย.) ณ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กลุ่มตัวแทนจำหน่าย บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมคดี ดิไอคอน กรุ๊ป โดยมี นายกิตติวิทย์ คงบุญรักษ์ นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ รักษาการในตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายชัยวัฒน์ แก้วแจ้ง อายุ 31 ปี ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ดิไอคอน เปิดเผยว่า การที่กลุ่มตัวแทนจำหน่ายรวมตัวกันมายื่นหนังสือในวันนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่เดินทางเข้าไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) เพื่อต้องการจะเข้าไปให้ปากคำในฐานะพยานฝั่งบริษัท ดิไอคอน แต่ปรากฎว่า เมื่อเข้าไปถึง ทางดีเอสไอกลับไม่ได้สอบปากคำพยานเลยแม้แต่คนเดียว แต่ให้กรอกรายละเอียดในเอกสารไว้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่เป็นธรรมกับตัวแทนจำหน่าย เพราะทุกคนตั้งใจมา บางคนมาจากต่างจังหวัด เตรียมจะมาให้ปากคำด้วยคำพูด แต่กลับต้องมากรอกเอกสาร ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหาย ตำรวจยังใช้วิธีการสอบปากคำทีละคน จึงมองว่าได้รับการปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน และอยากให้กระทรวงยุติธรรมให้ความเป็นธรรม
ด้าน น.ส.พิมพ์ใจ ตัวแทนจำหน่ายอีกคน เปิดเผยว่า นอกจากประเด็นเรื่องการสอบปากคำของดีเอสไอแล้ว อีกประเด็นที่อยากให้กระทรวงยุติธรรมให้ความเป็นธรรม คือกรณีที่ตัวแทนจำหน่าย เกือบ 100 คน ทยอยถูกอายัดบัญชี ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งที่ยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี
น.ส.พิมพ์ใจ เผยว่า ตนเองได้รับข้อความจากธนาคารเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา แจ้งว่าบัญชีถูกระงับ จากนั้นเพียง 2 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถเข้าแอปพลิเคชั่นของธนาคาร หรือทำธุรกรรมใดๆ ได้อีกเลย ซึ่งนอกจากบัญชีหลักที่ใช้รับเงินจากดิไอคอน ยังมีบัญชีอื่นๆ ที่เป็นชื่อตัวเอง รวม 5-7 บัญชี ถูกระงับทั้งหมด โดยที่ไม่มีคำชี้แจงหรือบอกกล่าวสาเหตุในการระงับบัญชีเลย และเมื่อโทรศัพท์สอบถามไปตามเบอร์ในข้อความ กลับไม่สามารถติดต่อได้ รวมถึงพยายามติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 4 หน่วยงานก็ไม่ได้รับคำตอบ ทำให้เดือดร้อนหนักมาก และอยากให้มีการปลดอายัดบัญชีของตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด
ด้านตัวแทนจำหน่ายอีกรายที่บัญชีถูกอายัดเช่นกัน เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้ปลดอายัดบัญชี 7 บัญชี ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.แล้ว และมีการตอบกลับมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา บอกเพียงว่าได้ส่งเรื่องให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบดำเนินการแล้ว แต่จนถึงวันนี้พบว่าบัญชีทั้งหมดยังไม่สามารถใช้ได้
ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายรายอื่นที่มาร่วมยื่นหนังสือวันนี้ สลับกันพูดสะท้อนความในใจของตนเองกับกรณีที่เกิดขึ้นกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปฯ โดยกลุ่มตัวแทนยืนยันว่า ในการทำงานกับบริษัทฯ ได้รับสินค้าครบถ้วนตลอด ซึ่งมองว่าบริษัทสร้างอาชีพให้ และมีการอบรมอยู่เรื่อยๆ ด้านการขายของออนไลน์ กรณีที่มีปัญหานั้น มองว่าเป็นการขายของไม่ได้เองมากกว่า พร้อมยืนยันว่าการทำงานกับบริษัทที่ผ่านมา เน้นการขายสินค้า ไม่ได้เน้นการหาลูกข่าย โดยรายได้มาจากส่วนแบ่งของการขายสินค้า ไม่ได้ส่วนแบ่งจากการชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุน ส่วนกรณีบอสดาราที่ถูกจับกุมนั้น ยืนยันว่าทั้งหมดมีบทบาทเป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น ไม่ได้มีการชักชวนร่วมลงทุน โดยขณะนี้แม้บอสดิไอคอนจะถูกจับกุม แต่กลุ่มตัวแทนฯ ยืนยันว่า ยังสามารถเบิกของมาขายได้ตามปกติ โดย นายชัยวัฒน์ แกนนำตัวแทนฯ ย้ำว่า “ถ้าไม่เชื่อ พี่นักข่าวลองกลับไปที่โกดัง เรื่องมันเริ่มนิ่งแล้ว ถ้าอยากเห็นสินค้า ผมว่ามีให้เห็นแล้ว”
ด้านนายกิตติวิทย์ คงบุญรักษ์ ในฐานะหัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ผู้มารับหนังสือ เปิดเผยว่า ภายหลังหลังจากรับหนังสือแล้วจะดำเนินการโดยหารือภายในกระทรวงว่ามีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องบ้าง จากนั้นผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาและให้ความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นดีเอสไอหรือไม่ หรือจะเป็นหน่วยงานใดบ้าง ขอพิจารณาดูสำนวนก่อน ยังไม่สามารถระบุได้โดยตรง ซึ่งโดยกระบวนการปกติหลังจากรับคำร้องแล้วจะมีกรอบเวลาอยู่ที่ประมาณ 15-30 วัน แต่กรณีนี้ยืนยันจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด