อัยการนัดฟังคำสั่ง ‘เชน ธนา’ร้องขอความเป็นธรรมคดีฉ้อโกง 79 ล้านบาท 29 พ.ย.นี้ หลังกลับคำสั่งตำรวจ เตรียมยื่นฟ้องศาล
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่สำนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 4 (พระนครใต้) ถ.จริญกรุง พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปรามได้นำตัวนายนายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ กับพวกมาส่งยังพนักงานอัยการคดีศาลเเขวงเพื่อยื่นฟ้องคดี ที่บริษัท ไทยยินตัน จำกัด (ผู้เสียหาย) ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด,นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์,นางกาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ ผู้ต้องหาที่ 1-3
ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 โดยมียอดความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท
วันนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหามาส่งให้พนักงานอัยการตามคำสั่งแล้ว โดยในวันเดียวกันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อหัวหน้าพนักงานอัยการ ซึ่งในประเด็นการร้องขอความเป็นธรรมนั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบจะพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการร้องขอความเป็นธรรมในคดีอาญา พ.ศ. 2567 ที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่
โดยพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบได้แจ้งผู้ต้องหาให้มาฟังคำสั่งดังกล่าว ในวันที่ 29 พ.ย. 2567 เวลา 10.00 น.
โดยนายธนา เดินทางมาพร้อมภรรยา โดยเข้าทางประตูข้างเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะพบกับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินทางกลับ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามวิ่งที่จะไปสอบถามถึงเรื่องการมาพบพนักงานอัยการในวันนี้ แต่เชน ธนาได้แต่ยกมือสวัสดีผู้สื่อข่าวและปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ แล้วได้ขึ้นรถออกไปทันที
ด้านทนายความของเชนธนาและภรรยา เปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ เพียงแค่ว่า วันนี้ได้มาพบพนักงานอัยการตามที่ได้มีการนัดหมายและได้ยื่นขอเลื่อนฟังคำสั่งส่งฟ้องต่อศาลออกไปก่อน ซึ่งทางพนักงานอัยการยังไม่ได้กำหนดวันนัดฟังคำสั่งส่งฟ้องว่าจะเป็นเมื่อไหร่
โดยกระบวนการหลังจากนี้นั้น นอกจากทางพนักงานอัยการจะต้องตรวจสอบสำนวนคดีแล้ว ก่อนพิจารณาคำสั่ง ซึ่งนายธนาและภรรยาก็ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมแก่พนักงานอัยการ แต่ขอที่จะสงวนเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี
เมื่อถามว่ายังยืนยันในข้อต่อสู้ว่าคดีดังกล่าวยังคงเป็นคดีแพ่งหรือไม่
ทนายความเปิดเผยว่า ทีมกฎหมายตรวจสอบแล้วยังยืนยันว่าเป็นคดีแพ่งอยู่ ส่วนเรื่องความวิตกกังวลของนายธนาและภรรยาทั้งนี้สำหรับคดีดังกล่าวนั้น หากพนักงานอัยการมีความเห็นส่งฟ้อง ก็จะดำเนินการส่งฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลแขวงพระนครใต้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา และส่งสำนวนมาให้พนักงานอัยการพิจารณา เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนสอบสวนแล้วมีความเห็นแย้งความเห็นพนักงานสอบสวน โดยสั่งฟ้องผู้ต้องหาและให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมส่งตัวมาฟ้องต่อไป