ตำรวจสืบนครบาลจับชาย วัย 27 ปี อ้างอ้างสนิทกับบิ๊ก ตร.ช่วยเรื่องประกันตัวชาวจีนได้ เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินสูญกว่า 1 ล้านบาท
วันนี้ (26 พ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น.จับกุมนายธนจิตร อายุ 27 ปี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 645/2566 ลงวันที่ เดือนธันวาคม 2566 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐานฉ้อโกง จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าห้องเช่า พัฒนาการ ซอย 10/1 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
โดยพฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือน มี.ค.65 ผู้เสียหายชาวจีนได้รู้จักกับนายธนจิตร โดยมีเพื่อน
เป็นคนแนะนำให้รู้จัก ต่อมามีเพื่อนของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนจีน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุม ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้ถูกเจ้าที่หน้าที่ตำรวจตม.3 คุมขัง ซึ่งผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะประกันตัวเพื่อนออกมาต่อสู้คดี ทางนาย ธนจิตร อ้างว่า ตนเองสามารถช่วยเหลือ เรื่องประกันตัวได้ แล้วเสนอว่า พ่อของตนเองเป็นทหารยศพลตรี สนิทกับบิ๊กตำรวจสนิทกับรองผบช.สอบสวนกลาง ให้ความช่วยเหลือในเรื่องประกันตัวได้ และผู้เสียหายบอกนาย ธนจิตร ว่า มีงบในการประกันตัวอยู่ 500,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 14 ก.ย.65 นายธนจิตร บอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน จำนวน 50,000 บาท ว่าเป็นค่าเลี้ยงอาหารผู้ใหญ่เป็น รอง ผบช.สอบสวนกลางไปทานข้าว โดยผู้เสียหาย ให้เงินสดกับแฟนซึ่งเป็นคนไทย จากนั้นนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร ทำการโอนเงินให้กับนายธนจิตร โดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร กรุงไทย ชื่อบัญชี นายนิรันดร ซึ่งนาย ธนจิตร แจ้งว่าเป็นบัญชีของพ่อของนายธนจิตร โดยบอกว่าบัญชีธนาคารกรุงไทยของตนเอง กำลังปรับปรุงไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ และในวันเดียวกันนายธนจิตร แจ้งว่าให้โอนเงินมาให้ตนเองอีก จำนวน 42,600 บาทโดยให้โอนเงินมาเข้าอีกบัญชีหนึ่งเป็นบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนายนภปก ผู้เสียหายจึงให้แฟนโอนเงินอีกจำนวน 44,200 บาท และจำนวน 400 บาท
ต่อมา นายธนจิตร บอกว่า ต้องการเงินก่อนเป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ให้เงินไปแล้วเป็นจำนวน 92,600 บาท เหลืออีกจำนวน 307,400 บาท จากนั้นจึงให้เพื่อนของเพื่อน ช่วยโอนเงินไปให้นาย ธนจิตร อีกจำนวนเงิน 307,400 บาท ต่อมาวันที่ 20 ก.ย.65 นายธนจิตรแจ้งว่า รองผู้บังคับการตม.3 (พัทยา) ต้องการเงินอีก จำนวน 200,000 บาท ในการประกันตัว ถ้าไม่เช่นนั้น จะไม่ได้ประกันตัว ผู้เสียหายจึงให้แฟนของเพื่อน ทำการโอนเงินจำนวน 200,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นายนิรันดร แล้วนายธนจิตร บอกว่า วันที่ 5 ต.ค.65 ให้ไปรับตัวเพื่อนได้เลย ต่อมาเมื่อถึงวันดังกล่าวก็ไม่สามารถประกันตัวได้อีก โดยนายธนจิตร ผู้ต้องหา อ้างว่า ผู้บังคับการตม.3 ต้องการเงินเพิ่มอีก จำนวน 400,000 บาท จึงนัดหมายให้ส่งเงินกันในวันที่ 7 ต.ค.65 ถ้าให้เงินอีกจำนวน 400,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบเงินกันที่ ห้างเดอะสตรีชรัชดา และในวันที่ 8 ต.ค.65 ก็สามารถประกันตัวออกมาได้เลย ต่อมาก็ได้นำเงินสดจำนวน 400,000 บาท ไปมอบให้กับนายธนจิตร กับพวกอีก 2 คน ที่ห้างเดอะสตรีช รัชดาฯ ต่อมาเมื่อถึงวันที่ 8 ต.ค.65 ก็ยังไม่สามารถประกันตัวเพื่อนได้อีกเลย โดยบอกว่า ผู้บังคับการ ตม.3 ต้องการเงินอีกจำนวน 600,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ตกลงด้วย
จากนั้นนายธนจิต ยังอ้างอีกว่า จะหาผู้ใหญ่คนอื่นมาช่วยอีก โดยอ้างว่า เป็น สจ. เป็นเจ้าของเกาะสีชัง ให้เงินอีกจำนวน 50,000 บาท เพื่อไปเลี้ยงข้าวผู้ใหญ่อีกต่อมาเมื่อถึงวันที่ 18 ต.ค.65 จึงโอนเงินจำนวน 50,000 บาท ไปให้นายธนจิตร และวันที่ 24 ต.ค.65 นายธนจิตร ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ต้องการเงินอีกจำนวน 30,000 บาทไปเลี้ยงข้าว ผู้บังคับการตม.3 จึงให้แฟนของเพื่อน ทำการโอนเงินให้กับนายธนจิตร จากนั้น นายธนจิตรยังบอกผู้เสียหาย อีกว่า สจ. ต้องการเงินอีกจำนวน 500,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ยอม นายธนจิตร จึงบอกว่าจะหาทนายความไปดำเนินการให้ โดยต้องจ่ายค่าจ้างให้กับ ทนายความเป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท โดยได้ทำการโอนเงิน จำนวน 70,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารของนายธนจิตร แต่ก็ไม่ได้ประกันตัว ทำให้เกิดความสงสัยว่า พ่อของนายธนจิตร ที่ชื่อนิรันดร ทำไม ไม่มียศพลตรี เมื่อโอนเงินให้บัญชีพ่อของนายธนจิตร และต่อมาได้โทรติดต่อนายธนจิตร ก็ไม่ค่อยจะรับสาย บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาว่าติดธุระ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง รวมเป็นเงินทั้งหมดที่ได้ถูกลวงหลอกให้โอนเงินเป็นเงินจำนวน 1,150,000 บาท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายธนจิตร กับพวกตามกฎหมายให้ถึงที่สิ้นสุด
ในชั้นจับกุมนายธนจิตร รับสารภาพว่า รู้จักเพื่อนของผู้ต้องหาจริง และอ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และอ้างเพิ่มเติมว่าพ่อของตนเป็นนายทหารยศพลตรี สามารถให้ความช่วยเหลือได้ประกันตัว ผู้ต้องหาชาวจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตม.จับไปให้ออกมาได้ จากนั้นมีการออกอุบายให้โอนเงินผ่านนายนิรันดร บิดา จำนวนหลายแสนบาท และอีกจำนวนหลายก้อน แม้กระทั่งเงินสดที่อ้างว่านำไปเลี้ยงข้าวผู้ใหญ่ ซึ่งตนนำไปใช้ส่วนตัว และไม่ติดต่อผู้เสียหายเพราะตนได้หลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัด จนตัวเองกลับมาทำงานที่กรุงเทพมหานคร ได้เพียง 2 เดือน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจับกุมตัวได้ และจากการสอบถาม พบว่าพ่อของผู้ต้องหาทำงานเชียร์แขกในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ไม่ได้เป็นทหารตามกล่าวอ้างแต่อย่างใด จากนั้นได้นำตัว ส่ง สน.ห้วยขวาง
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีนโยบายให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในทางคดีอาญาในทุกคดี อย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างว่ารู้จักบิ๊กตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักการเมืองใหญ่โต ดังที่ปรากฎตามหน้าข่าวปัจจุบัน ว่าสามารถให้การช่วยเหลือในคดีต่างๆได้ โดยที่ต้องใช้เงินในการวิ่งเต้นต่างๆ ขอให้ท่านมีสติ ต่อสู้ไปตามกระบวนการทางกฎหมาย สุดท้ายหากท่านพบการกระทำในลักษณะดังกล่าว ให้รีบโทรแจ้งเรื่องร้องเรียนที่เบอร์ 1599 สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแจ้งที่สถานีตำรวจใกล้บ้านของท่าน