"ทนายพัช" ยื่นคำร้องศาลอาญา ขอถอนตัวเป็นทนายความให้ "แอม ไซยาไนด์"ที่โดนโทษประหารชีวิต ส่วนตัวเองโดยคุก 2 ปี แต่ได้ประกันตัว ชี้มุมมองสู้คดีไม่ตรงกัน ปัดลอยแพลูกความ
เมื่อเวลา12.30 น.วันนี้ (25 พ.ย.) ความคืบหน้ากรณีศาลอาญาพิพากษาให้ประหารชีวิตนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ"แอมไซยาไนด์" ในคดีวางยาพิษทำให้น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย เสียชีวิต และพิพากษาจำคุก พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามี แอม ไซยาไนด์ เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และจำคุก น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวัณวัฒน์ หรือทนายพัช เป็นเวลา 2 ปี ในข้อหา ช่วยเหลือผู้กระทำผิดหิให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง โดยพ.ต.ท.วิฑูรย์และน.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช ได้รับการประกันตัว วงเงินคนละ 100,000 บาท
ล่าสุด น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวัณวัฒน์ หรือทนายพัช เดินทางมาศาลอาญา พร้อมเอกสารการยื่นขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความให้นางสรารัตน์หรือแอม ไซยาไนด์ โดย น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นถอนตัวจากการเป็นทนายความให้กับนางสรารัตน์หรือแอม เนื่องจากความเห็นของทนายความกับลูกความมีความเห็นไม่ตรงกัน ที่ผ่านมาตนได้ทำหน้าที่ในศาลชั้นต้นเรียบร้อยแล้ว จึงหมดหน้าที่ในศาลชั้นต้น แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นเรื่องภายในสำนวน ตามมรรยาทของทนายความถึงแม้ทนายความจะออกจากการเป็นทนายความของลูกความแล้ว จะต้องรักษาความลับของลูกความเอาไว้ ไม่สามารถนำมาเผยแพร่ได้
ทนายพัชกล่าวว่า ในส่วนการอุทธรณ์คดีทางแอมต้องหาทนายความคนอื่นมาแก้ต่างในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพื่อจะได้ลองทำงานร่วมกับทนายคนอื่นว่าจะมีการดำเนินการกับแอมอย่างไร ที่ผ่านมาตนได้ทำหน้าที่ในฐานะทนายความที่ดีและความลับของลูกความเราก็ไม่บอก ขณะนี้ตนมีหน้าที่ในการเตรียมอุทธรณ์ในส่วนของตัวเอง ต้องมาดูว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน เพื่อขอความเมตตาจากศาลสูงในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
ทนายพัช กล่าวว่า สำหรับการถอนตัวจากการเป็นทนายความแอม ตนตัดสินใจมานานแล้วและได้คัดทะเบียนราษฎร์ของแอมตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนศาลมีคำพิพากษา ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะเป็นเช่นไรตนก็ตัดสินใจขอถอนตัวอยู่ดี และขอถอนตัวจากทุกสำนวนคดี ส่วนตัวแอมไม่ได้ว่าอะไร และแอมก็ร้องขอว่าอย่าถอนเลย แต่เมื่อความเห็นไม่ตรงกันในมุมของนักกฎหมายจึงขอถอนตัวออกมา ตนอยากให้แอมได้สัมผัสกับทนายคนอื่นบ้างว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร มีมุมมองความเห็นในการสู้คดีอย่างไร ส่วนเรื่องที่ตนถูกแอมซัดทอดมานั้น ไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่ใช้คำว่าติดใจมากกว่า เพราะการทำงานมันต้องตรงไปตรงมา จากนี้แอมมีสิทธิ์ที่จะเลือกทนายความคนไหนก็ได้ และทนายความก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทำหรือไม่ก็ได้ ยืนยันว่าไม่ใช่การลอยแพ เพราะได้ตัดสินใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนมีคำพิพากษาแล้ว และคิดว่าแอมคงหาทนายใหม่ได้ แม้คดีจะมีความสลับซับซ้อนก็ตาม หลังจากนี้คงไม่ได้ไปเยี่ยมแอมที่เรือนจำ
ทนายพัชกล่าวว่า ยังมีเรื่องที่จะต้องติดตามก็คือ พ.ร.บ.ทรมานฯ เพราะตนเป็นผู้รับมอบอำนาจจากแอมในการร้องเรียน การจับกุมปกปิดชะตากรรมและยังคงต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม เมื่อจับกุมแอมแล้วไม่ได้แจ้งให้กรมการปกครองทราบ และไม่ได้แจ้งให้กับสำนักงานอัยการสูงสุดทราบ เท่ากับเป็นเรื่องการปกปิดชะตากรรม จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทรมานฯ อันเป็นความผิดต่อแผ่นดิน เป็นหน้าที่ที่ตนต้องนำข้อมูลไปเสนอ เนื่องจากเราเป็นผู้รับมอบอำนาจ
ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เดินทางมาศาลอาญา เจอกับ ทนายพัชโดนบังเอิญ ก็รีบมาพูดคุยจับมือให้กำลังใจพร้อมหยอกล้อ
นายเดชา กล่าวว่า วันนี้เจออัยการเจ้าของสำนวนได้เเจ้งว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ โดยจะขอให้ศาลเพิ่มโทษในส่วนของทนายพัช
ผู้สื่อข่าวถามว่าอำนาจการพิจารณาอุทธรณ์เป็นของอัยการศาลสูง อัยการเจ้าของสำนวนทราบได้อย่างไร
นายเดชา กล่าวว่าใช่ๆ เขาคุยกันเเล้ว