“ไกรบุญ” สั่งไล่ล่า ”โจ้ ปัตตานี” เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ต่อเนื่อง ล่าสุดพบเคลื่อนไหวในกัมพูชา เร่งประสานงานกดดัน แต่ติดขัดข้อกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนผลสอบตร.เอี่ยวเรือบรรทุกน้ำมันหายมีความคืบหน้าแต่ยังไม่ได้รับรายงานผล พร้อมคุม ศปนม.ตร. ต่อ หากผบ.ตร.มอบหมาย
วันนี้ (22 พ.ย.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปนม.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามจับกุมนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” พ่อค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ของประเทศ ยังคงมีความพยายามติดตามจับกุมตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานและพูดคุยกับทางการกัมพูชา เพื่อกดดันแต่เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับจึงยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ แต่ก่อนหน้านี้ทราบว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยยืนยันว่าไม่ลดละในการนำตัวมาดำเนินคดี
ส่วนเรือบรรทุกน้ำมันขนาดแสนลิตรที่ลอยกลางทะเลภาคใต้เพื่อถ่ายเทน้ำมันให้กับกลุ่มที่ลักลอบขนถ่ายน้ำมัน เจ้าหน้าที่มีข้อมูลแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะยังมีเรืออีกหลายลำที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกันอยู่ในข่ายกระทำผิดเกรงจะเสียรูปคดีในการสืบสวนขยายผล
สำหรับผลการตรวจสอบในฐานะจเรตำรวจที่สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งผ่านไป 2-3 เดือน ก็มีความคืบหน้าแต่ยังไม่รายงานผลมาที่ตนเอง และไม่ทราบว่าก่อนที่ตนเองจะย้ายไปดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร.หรือไม่ แต่ในทางปกครองทางต้นสังกัดได้มีการสั่งให้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องไปช่วยราชการขณะนี้ก็ยังช่วยราชการอยู่ที่ บช.ก.
อย่างไรก็ตาม สำหรับ ผอ.ศปนม.ตร.หากเปลี่ยนหน้าที่แล้วตนเองยังไม่ทราบว่า ผบ.ตร.จะมีนโยบายมอบหมายให้กำกับดูแลต่อหรือไม่ หากไม่มอบให้ตนเองรับผิดชอบก็พร้อมส่งมอบหมายให้ ผอ.ศูนย์คนใหม่ โดยเชื่อว่าไม่ว่ะจะเป็นใครก็สามารถที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาลและตร.ได้ทันที
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ อยากกำกับดูแลศูนย์ฯต่อหรือไม่ พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ตนทำได้ทุกอย่างตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย