ก.ตร.ถกมาราธอนกว่า 4 ชม. จัดโผนายพลสีกากี เด็กการเมืองได้ดียกแผง "สยาม" ผงาดนั่ง ผบช.น. "ภาณุมาศ" ผบช.สตม. "ยิ่งยศ" ผบช.ภ.2 "ไตรรงค์" โยกนั่งผบช.สอท. สะพัดงัดหลักเกณฑ์ "อาวุโส 3 ปี ขึ้นผบช." สะกัดนักวิ่ง
วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานการประชุมพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. ถึง ผบช. และจตร. วาระประจำปี 2567
มีรายงานว่า ก่อนประชุม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นำบัญชีรายชื่อที่ผ่านคณะกรรมการพิจารณารายชื่อตำรวจที่มีการประชุมวันที่ 19 พ.ย.หารือ น.ส.แพทองธาร ท่ามกลางกระแสข่าว ก.ตร.ปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายเดิมตำแหน่ง ผบช. ให้ผู้ที่ครองตำแหน่ง 2 ปี ขึ้นเป็น ผบช. ปรับเป็นผู้ที่ครองตำแหน่ง 3 ปี และคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งเสนอปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ผบช.หลักหลายตำแหน่ง
ระดับรองผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง พิจารณาแต่งตั้งตามลำดับอาวุโส ได้แก่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง และพล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร
ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 7 ตำแหน่ง พิจารณาแต่งตั้งตามลำดับอาวุโส ได้แก่ พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา หัวหน้าจเรตำรวจ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส. พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ ผบช.สกบ. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงแรกของการประชุมเป็นพิจารณาระดับ รองผบ.ตร.และผู้ช่วยผบ.ตร.ที่พิจารณาแต่งตั้งตามลำดับอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์ มาถึงระดับ ผบช. ได้มีการพิจารณาไล่เรียงตำแหน่งโดยคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งชี้แจงหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายเดิมตำแหน่ง ผบช. ให้ผู้ที่ครองตำแหน่ง 2 ปี ขึ้นเป็น ผบช. ปรับเป็นผู้ที่ครองตำแหน่ง 3 ปี โดยมีการยกเว้นในรายของ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 นรต.41 คนสนิทร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งฯ เสนอเปลี่ยน ผบช.หลักหลายตำแหน่ง โดยมีการอภิปรายทุกตำแหน่ง ทั้งกลุ่มอาวุโส กลุ่มความรู้ ความสามารถ ต่อมาก.ตร.บางคนเสนอให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน แต่ ก.ตร.มีมติประชุมต่อจนถึงเวลา 18.00 น. มีการพักการประชุม ก่อนที่จะเริ่มประชุมอีกครั้งและเสร็จสิ้นประชุมเวลา 18.35 น.
สำหรับรายชื่อผ่านการพิจารณาของก.ตร. ได้แก่ พล.ต.ท.สยาม บุญสม จตร.(สบ8) นรต. 46 โยกเป็น ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. นรต.รุ่น 41 คนสนิท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อนเป็นผบช.สตม. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.41 เพื่อนร่วมรุ่นผบ.ตร. คนสนิทนักการเมืองดัง โยกเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. นรต.41 สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า โยกเป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ศ. นรต.40 โยกเป็น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค 2 นรต.42 คนสนิทน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นเป็น ผบช.ภาค 4
ส่วนพล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภาค 5 พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภาค 6 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 นรต.40 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 นรต.42 พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 นรต.42 พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. นรต.41 และพล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. นรต.40 อยู่ที่เดิม
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. นรต.46 น้องชาย "เสธ.หิ" นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ โยกมาเป็น ผบช.สอท. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรมัย จตร.(สบ 8) นรต.รุ่น 48 จากเดิมมีชื่อมาเป็นผบช.น. โยกเป็นผบช.ปส. พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 42 โยกเป็น ผบช.ส. พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รองผบช.ภ.9 นรต.รุ่น 40 อดีต ผบก.ตชด.เป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 46 โฆษก ตร. โยกเป็น ผบช.สกพ. พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.สงป. โยกเป็น ผบช.สกบ.
พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รองผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 44 เลื่อนเป็น ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.47 โยกเป็น ผบช.ศ. พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 นรต.41 คนสนิทร.อ.ธรรมนัส ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสง.ตร. พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. สายการเมืองพรรคภูมิใจไทย พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภาค 2 ขึ้น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผบช.ภ.5 นรต.รุ่น 43 เลื่อนเป็น จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รองผบช.ภ.2 เลื่อนเป็น จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ก.6 นรต.41 เลื่อนขึ้นเป็น จตร. พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สกพ. เลื่อนเป็น จตร.
ในเวลา 18.35 น. เสร็จสิ้นการประชุม นางสาวแพทองธาร ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า การจัดทำบัญชีนายพลเป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ไม่ได้ตอบคำถามแต่ทำสัญลักษณ์มือ ยกนิ้วโป้งให้เท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท. อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมมีการพิจารณานายตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. จนไปถึง ผบช. รวมทั้งหมด 41 ตำแหน่ง ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อระเบียบและวิธีปฏิบัติที่ยึดระดับความอาวุโส ความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยที่ประชุมมีการหยิบยกรายชื่อตัวบุคคลทุกตำแหน่งมาพิจารณาอย่างทั่วถึง เชื่อได้ว่าหลังจบการประชุมบุคคลที่ได้รับการพิจารณาแต่ละตำแหน่งจะมีความเหมาะสม
ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า ในที่ประชุมฯมีการถกเถียงเรื่องการครองตำแหน่งอายุราชการที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท. อนุชา กล่าวยอมรับว่า ในที่ประชุมฯนำรูปแบบดังกล่าวมาพิจารณาจริง แต่ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิผู้มีอายุราชการเพียง 2, 3 และ 4 ปี แต่เป็นการพิจารณาทุกราย ทุกตำแหน่งเป็นไปด้วยความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าให้นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นใดรุ่นหนึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็นพิเศษ รวมทั้งกระแสที่ว่าจะคัดเลือกเฉพาะเพื่อน นรต. เดียวกับ ผบ.ตร.
พล.ต.ท.อนุชา กล่าวถึงการใช้เวลาพิจารณาวาระนี้นานกว่า 4 ชั่วโมงเนื่องจาก ก.ตร.ทุกท่านต้องการพิจารณาว่าคุณสมบัติแต่ละรายเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ส่วนนายกฯ ในฐานะประธานได้นั่งควบคุมการประชุมตลอดเวลาจนแล้วเสร็จ พร้อมเปิดโอกาสให้คณะกรรมการทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยไม่มีข้อท้วงติง หรือสั่งการเรื่องใดเป็นพิเศษ
ส่วนประเด็นที่ว่าการแต่งตั้งนายพลครั้งนี้มีเรื่องของการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา ยืนยันว่าที่ประชุมฯ ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ แต่หากบุคคลใดที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมการฟ้องร้องเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้
เมื่อถามว่าการแต่งตั้งครั้งนี้จะทำให้หลายคนผิดหวังจนเสียน้ำตาหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชา กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นรายชื่อบุคคลใดมาก่อน ตนเองมารับรู้ในฐานะเลขาฯ ในที่ประชุมเท่านั้น