xs
xsm
sm
md
lg

"ทนายวิฑูรย์" เยี่ยม “บอสพอล” มอบอำนาจเอาผิด "เจ๊พัช-ฟิล์ม" เรียกรับเงิน 20 ล. แลกออกรายการดัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล.

วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง

"นอกจากนี้ วันเสาร์ที่ 16 พ.ย.67 ทีมทนายได้แอบไปยื่นขอประกันตัว นายธวินทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือ "บอสวิน" โดยนำหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ไปยื่น เพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะที่ 3 ตอนนี้อยู่ในแดน 1 สภาพร่างกายของบอสวินมีเกล็ดเลือดต่ำ แต่ท้ายที่สุดศาลยกคำร้องไม่ให้ประกันตัว โดยไม่ได้มีการไต่สวน ให้เหตุผลว่าคดีนี้มีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และคัดค้านการประกันตัวจากผู้เสียหายและพนักงานสอบสวน แต่ก็ต้องรอความเห็นแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกครั้งหนึ่ง และส่วนตัวมีความคิดว่าจะนำไปคุมขังและรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ"

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการประกันตัวบอสทั้งหมดจึงมองว่าเป็นเรื่องยากและน่าจะต้องอยู่ครบทั้ง 7 ฝาก ซึ่งทุกคนเริ่มปรับตัวได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บอสปันและบอสพอลทราบเรื่องที่ น.ส.กฤษอนงค์ เข้าไปในเรือนจำแล้ว ไม่ได้รู้สึกสะใจอะไรแต่น่าจะเป็นความกังวลมากกว่าเพราะไม่อยากเจอกัน ซึ่งเข้าไปอยู่ต้องแยกนอนแต่การทำกิจกรรมอาจเจอกัน

"ส่วนผู้เสียหายที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของดิไอคอน ที่เข้าร้องตำรวจสอบสวนกลาง ให้ พ.ต.ท.ราเชน แสงหมี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. ให้ปลดอายัดบัญชี ได้แจ้งตัวแทนให้ไปร้องที่ดีเอสไอ ซึ่งผู้ที่ถูกอายัดบัญชีไม่ได้มีเพียง 40 คนแต่มีทั่วประเทศ มองว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะหลายคนมีภาระใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ควรมีการอายัดในลักษณะนี้ และคาดว่าผู้เสียหายมีหลักร้อยรายแล้ว รวมถึง การอ้างว่ามีคลิปบอสปันกราบเท้า น.ส.กฤษอนงค์ ตนถามเลขาฯ บอสปัน ยืนยันว่าไม่มีการกราบ และดิไอคอนไม่ได้กังวลว่าจะมีคลิปเด็ดอะไรหรือไม่ เพราะว่าฝั่งเราก็มีคลิปเด็ดพอสมควร และเป็นหลักฐานที่ไม่ได้เปิดเผย"

อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (20 พ.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเดินทางเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมในเรือนจำ ต่อจากพนักงานสอบสวนกลางที่สอบสวนไว้ คาดว่าจะเป็นเรื่องของพฤติการณ์คดีโดยละเอียดในส่วนข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่เป็นสำนวนคดีเดิมจากตำรวจ แต่เมื่อถ่ายโอนสำนวนมาดีเอสไอ ต้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ในส่วนคดี พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ยังไม่ได้สอบเพราะมีกำหนด 15 วัน ให้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร
กำลังโหลดความคิดเห็น