อ.ปานเทพ ยันหลักฐานมัด“ทนายตั้ม” ดิ้นไม่หลุดแน่ เผย คดี 39 ล้าน เป็นตัวชี้ให้เห็นกระบวนการวางแผนหาทางหนีทีไล่สู้คดีไว้ล่วงหน้า เตรียมแฉเรื่องพินัยกรรมในรายการสนธิทอล์คศุกร์นี้
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 18.00 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำในฐานะพยานคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” ฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อย ร่วม 5 ชั่วโมง ว่า ในฐานะสื่อมวลชนได้รับข้อมูลจากคน 2 กลุ่ม คือ คนที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ คือ พี่อ้อย 3 ครั้ง และจากพยานปากคำสัญ คือ “มี่” และ “เตอร์” 1 ครั้ง ซึ่งก็ได้ให้การกับตำรวจครบถ้วนไปแล้ว ส่วนหลักฐานตนเองแทบไม่ได้ส่งมอบอะไรเลย เพราะคู่กรณีได้ส่งมอบให้ตำรวจทั้งหมดแล้ว โดยรวมเชื่อมั่นว่า คดีนี้จะคลี่คลายภายในเร็ววันนี้
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ความสำคัญของคดีนี้มีหลายกรรม ที่จะยึดโยงกับเงินก้อน 71 ล้าน 13 ล้าน และ 9 ล้าน แต่ตัวชี้ขาดคือ คดี 39 ล้าน ที่จะทำให้เห็นว่า มีการทำเป็นขบวนการ และการจะเอาเงินก้อนนี้ มีการเตรียมแผนการสู้คดีไว้ด้วย ทั้งการร่างสัญญา การส่งไฟล์ต่างๆ และเป็นการสู้คดีที่ทนายความตั้มจะไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว และยืนยันได้ว่า คดี 39 ล้าน มีพยานหลักฐานครบถ้วน
“การออกแบบวางแผนไว้ล่วงหน้าแบบนี้ ไม่ใช่การให้โดยเสน่หาแน่นอน เพราะทำเป็นขบวนการ และตำรวจมีพยานหลักฐานมัดแน่นแล้วว่าแบ่งเงินกันยังไง แบ่งให้ใคร แล้วแบ่งไปไหนบ้าง” นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า ใครจะรับทำคดีนี้ต้องคิดหนัก แม้กระทั่งทนายสายหยุด และเชื่อว่า เร็ววันนี้ตำรวจจะไปแจ้งข้อกล่าวหา ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเอาข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฟอกเงิน กับทนายตั้ม ถึงเวลานั้นจะเห็นเองว่าพยานหลักฐานมัดแน่นแค่ไหน เชื่อว่า ดิ้นหลุดยาก ส่วนจะมีใครที่รู้เห็นการกระทำความผิดอีกหรือไม่อยู่ที่ตำรวจดำเนินการ ซึ่งถ้าตำรวจสืบข้อเท็จจริงมาได้ก่อนที่จะให้การ จะเรียกว่าจำนนต่อหลักฐาน
“ชัดยิ่งกว่าชัด จะดิ้นไปว่าให้โดยเสน่หาไม่ได้เลย เพราะมีการออกแบบในทุกขั้นตอน คดี 39 ล้าน จะเป็นคดีที่ชี้ขาดกระบวนความคิดของทนายตั้มและพวก เช่น การเสแสร้งไปบอกในลักษณะห้ามว่าอย่าโอน แต่มีการโทรศัพท์ไปในขั้นตอนการเบิกเงิน และมีการวางพล็อตเรื่องว่าตัวเองเดินทางไปต่างประเทศในวันถอนเงินเป็นหลักฐาน แต่กลับพบว่ามีใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารแทน ซึ่งทั้งหมดตำรวจรู้ข้อมูลหมดแล้ว และการกระทำเป็นการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนสลับซับซ้อน วางแผนไว้ล่วงหน้า ไม่ได้คิดไปทำไป ส่วนประเด็นเรื่องของพินัยกรรม รายละเอียดทั้งหมด จะเปิดในรายการสนธิทอล์ค วันศุกร์นี้” นายปานเทพ กล่าว