ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ สตม. บช.ก. ภ.6 และ ตชด. บูรณาการร่วมกับกองกำลังทหารและฝ่ายปกครอง คุมเข้มแนวชายแดน ปราบปรามการค้ามนุษย์และการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง พร้อมทั้งตรวจคัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติคนต่างด้าวทุกราย
วันนี้ (14 พ.ย. ) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) , ตำรวจภูธรภาค 6 ( ภ.6) และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ลาดตระเวนและตรวจตราบริเวณแนวชายแดนจังหวัดตาก (อ.แม่สอด) และจังหวัดพื้นที่แนวชายแดน ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง หรือเดินทางออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งกำชับมาตรการ ดังนี้
1. บูรณาการด้านการข่าวฝ่ายความมั่นคง ทหาร ฝ่ายปกครองและประชาชนในพื้นที่
2. จัดชุดตรวจตรา ลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนป้องกันการข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย
3. ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตลอดแนวชายแดนและเส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางการเดินทางให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัดและพื้นที่ติดต่อ รอยต่อชายแดน ช่องทางธรรมชาติต่าง ๆ
4. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจคัดกรองคนต่างด้าวจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศและร่วมกับการท่าอากาศยานเพื่อตรวจคัดกรองคนต่างด้าวที่เดินทางโดยสายการบินภายในประเทศ
5. กรณีที่ตรวจพบคนต่างด้าวในพื้นที่จังหวัด ไม่ว่าจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จะต้องมีการพูดคุย ซักถาม สัมภาษณ์คนต่างด้าวทุกราย เพื่อให้เป็นไปตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ
6. ให้ ศพดส.ตร. และ กองการต่างประเทศ (ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานความร่วมมือด้านการข่าว และให้ความช่วยเหลือกรณีที่มีข้อมูลความร่วมมือระหว่างประเทศ
โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร. เข้าไปควบคุม กำกับ ดูแล การปฏิบัติและรายงานผลให้ทราบโดยด่วน
ทั้งนี้ นโยบายการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นนโยบายที่เร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล กระทบต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บังคับใช้กฎหมายและดำเนินการอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และเข้มงวด ป้องกัน ปราบปรามกระทำความผิดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน ประพฤติมิชอบ จะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด