เมื่อวันที่ 11 พ.ย.67 จากนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ทุกหน่วยและหน่วยงานด้านความมั่นคง บูรณาการในการปราบปรามยาเสพติด ให้หมดไปจากประเทศไทย และกองทัพบก โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) จึงได้สั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศจัดการกับปัญหายาเสพติด ซึ่งหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก ได้ขานรับนโยบายอย่างเร่งด่วน รีบออกทำการขยายผลและเข้ากวาดล้างกลุ่มผู้ที่ มีพฤติกรรมในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังพื้นที่ชั้นในของประเทศ
ด้านพล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผู้บัญชาการ หน่วยข่าวกรองทางทหาร หลังจากได้รับมอบนโยบาย จากทางผู้บัญชาการทหารบกแล้ว จึงสั่งการไปยัง หน่วยข่าวกรองทางทหารทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ ใช้ยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมด เข้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอำนวยการปราบปรามยาเสพติด
โดยเมื่อ วันที่ 8 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา หน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (นปส.ขกท.ศปก.ทบ.) โดยหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
(ขกท.ศปก.นสศ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติดยาเสพติด ชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 เจ้าหน้าที่กองกับการสืบสวนจังหวัดสระบุรี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ร่วมกันปฏิบัติการสืบสวนติดตามหาข่าว พิสูจน์ทราบ ชี้เป้าหมายและนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติด
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ และทีมลำเลียงยาเสพติดได้หลายคดี ทำให้ทราบว่านายภูษิตหรือบังซุบ มีภูมิลำเนาอยู่บริเวณเขตบึงกุ่ม กรุวเทพ มีพฤติการณ์เป็นผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้รับในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย
จากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมายังพื้นที่ภาคกลาง จนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติด(ยาบ้า) ได้ที่บริเวณถนนสุดบรรทัด ฝั่งตรงข้ามการประปาเทศบาลแก่งคอย ม.9 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ทราบชื่อต่อมา นายภูษิต โรมวิสัย หรือบังซุป อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/185 ซ.นวมินทร์ 111 แยก 3-1-2 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 5,520,000 เม็ด ที่ผซุกซ่อนอยู่ภายใน รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีดำ หมายเลขทะเบียน สอ 8588 กรุงเทพมหานคร (รถบรรทุกยาเสพติด)
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ขนยาเสพติดมาในพื้นที่ภาคกลาง เพื่อรอการกระจายยาเสพติดไปยังพื้นที่ต่างๆ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลต่อไป