MGR Online - ทนายบอสพอล เผย ได้รับการประสานจากดีเอสไอ หลังเตรียมเข้าแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง 18 บอส ในเรือนจำ ยันมีหลักฐานพิสูจน์ได้
วันนี้ (11 พ.ย.) เวลา 9.30 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" ผู้ต้องหาในคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กล่าวเปิดเผยกรณีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ในเรือนจำฯ ว่า ดีเอสไอประสานตนมา ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.67 โดยจะมีเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวในวันนี้ (11 พ.ย.) กับผู้ต้องหาทั้ง 18 คนพร้อมกัน จึงได้ให้ทีมงานเตรียมเอกสารไว้พอสมควรและจะนำมาชี้แจงด้วย ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจทั้งหมด อาทิ รายการทำธุรกรรมการเงินจากโรงงานมาโกดัง และโกดังไปยังลูกค้า เป็นต้น ส่วนทีมทนายความจะแบ่งทั้ง 2 เรือนจำ เช่น เลขาบอสแล็ป จะอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วน เลขาบอสพอล จะไปอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ตนได้ถามทางดีเอสไอว่าจะสอบคำให้การเลยหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าจะสอบคำให้การในเบื้องต้นจึงเตรียมข้อมูลมาอย่างแน่นหนา เนื่องจากต้องการให้รายละเอียดทั้งหมดเพราะเกรงว่าดีเอสไอรับคำให้การเบื้องต้นไปแล้วจะตัดจบคดี เพราะการเข้ามาสอบในเรือนจำไม่ได้เข้ามาง่ายจึงเกรงว่าจะไม่ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่เลยต้องการให้ละเอียดครบถ้วน โดยปกติแล้วขั้นตอนจะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาก่อน จากนั้นผู้ต้องหาจึงให้ปากคำ
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า วันนี้ดีเอสไอจะเข้ามาแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ ซึ่งองค์ประกอบต้องไม่มีธุรกิจอยู่จริง ต้องเอาเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่าหมุนเวียนไปเรื่อยๆ และต้องไม่มีสินค้า แต่ปรากฎว่า บริษัท ดิไอคอน ไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดดังกล่าวนี้ จึงต้องการให้ปากคำโดยละเอียด คงอาจมีการให้ปากคำนานพอสมควร และพวกตนยินดีที่จะเปิดแผนหลังบ้านให้ดูเพื่อจะได้ชี้แจงให้เห็นว่าระบบหลังบ้าน บริษัท ดิไอคอน เป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าพยานที่จะนำมาให้การกับดีเอสไอ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตอนแรกตนส่งรายชื่อยืนยันตัวตนให้ดีเอสไอแล้วเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา และตอนนี้ได้กลับมาทำบัญชีรายชื่อพยานใหม่ โดยได้เก็บสำเนาบัตรประชาชนของพยานแต่ละคน เบื้องต้นรวบรวมได้แล้ว 700 คน ซึ่งก็จะมีการทยอยนัดเก็บหลักฐาน พยานไปเรื่อยๆ โดยจะรวบรวมทั้งหมดประมาณ 3,000 คน หลังจากนั้นจะปิดท้ายด้วยพยานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่
"พฤติการณ์ของพยานแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ซึ่งทราบว่าดีเอสไอจะสอบพยานเพียงบางส่วนแล้วตัด ไม่ได้สอบทั้ง 3,000 คน แต่ผมคงไม่มีการแจ้งข้อหา ม.157 กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ส่วนตัวแทนจะแจ้งหรือไม่ ผมไม่ทราบ แค่บอกว่าผู้พิพากษาเมื่อมีการพิจารณาคดีในศาลยังไม่มีการตัดพยานที่นำมาให้ถ้อยคำสู้ในศาล ซึ่งก็ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นการปิดกั้นการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา ดีเอสไอต้องกลับไปพิจารณาให้ดี ไม่ใช่เอาง่ายเข้าว่า ชีวิตคนทั้งชีวิต เพราะคดีใหญ่ ขณะนี้ฝั่งผู้เสียหายที่อยู่ตรงข้ามเป็นหมื่นคนยังสอบกันได้ ฝั่งดิไอคอนจำนวนพันกว่าคน มองว่าไม่ถูกต้อง เพราะดีเอสไอเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องทำตัวอยู่ตรงกลางไม่ใช่เลือกข้างฝั่งใดฝั่งนึง ถ้าเลือกข้างก็ไม่ต่างอะไรกับพยานอยู่เสียหาย"