xs
xsm
sm
md
lg

"ทนายสายหยุด"เผยเตรียมเข้าเยี่ยม"ทนายตั้ม"หารือคดี เชื่อมีช่องสู้ได้-บช.ก.เร่งคลี่คลายโกง 39 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบช.ก.เร่งคลี่คลายคดีโกง 39 ล้านให้กระจ่าง สั่งค้นหาทรัพย์สิน "ทนายตั้ม-ภรรยา" ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน "ทนายสายหยุด"เผยเตรียมเข้าเยี่ยมลูกความหารือทางคดี เชื่อยังมีช่องให้สู้ได้


วันนี้ (10 พ.ย.)พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกงพี่อ้อย ว่า ชุดทำงานอยู่ระหว่างการสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้รัดกุมแน่นหนา เพื่อคลี่คลายข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นเงิน 39 ล้านบาท ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาพยานและตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำให้การของผู้เสียหายและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าเป็นระยะ ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่และรัดกุม ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับใครหรือมีใครร่วมกระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมาย

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่าขณะเดียวกันชุดทำงานอยู่ระหว่างการสืบสวนหาทรัพย์สินเพิ่มเติมของทนายตั้มและภรรยา ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งหากพบทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน เช่นเดียวกับการวิเคราะห์หลักฐานที่ตรวจยึดได้จากสำนักงานกฎหมายษิทรา ลอว์ เฟิร์ม ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการเช่นกัน ส่วนการที่ทนายความของนายษิทรา จะนำคนกลาง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการโอนเงินระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับไทย ผู้เชี่ยวชาญในการคิดค่าคอมมิชชั่น และผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบก่อสร้างมาให้การนั้น ทางชุดทำงานพร้อมรับฟัง เพราะตำรวจไม่ได้หวังพึ่งพยานหลักฐานใดหลักฐานหนึ่ง ต้องทำให้ครบถ้วนรอบด้าน และส่วนของตำรวจก็มีพยานหลักฐานอยู่แล้วด้วย ดังนั้นก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่ทำได้ และหากพามาเองได้ก็ควรพามาเองเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไม่ใช่มาอ้างบุคคลที่ตำรวจไม่สามารถนำมาสอบได้ เพื่อประวิงเวลา และยืนยันว่าตำรวจสอบสวนกลางพร้อมให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว

ทั้งนี้มีรายงานว่าชุดสืบสวนได้มีสอบถามข้อมูลกับ นายนุ คนสนิททนายตั้ม และภรรยาของนายนุ แล้ว หลังปรากฏข้อมูลว่าทั้งสองได้ไปถอนเป็นเงินสดออกมาจากธนาคารแห่งหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าย่านห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลจีพีเอส รถ Porsche รุ่น Cayenne ทะเบียน ธก 999 กรุงเทพมหานคร ของนายษิทรา ให้แน่ชัดว่า ในวันที่ นายนุกับภรรยา ไปถอนเงินนั้นและวันที่ภรรยานายนุไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ นายษิทรา ได้มีการไปพบหาทั้งสองหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานข้อเท็จจริง นอกจากนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างการรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ที่มี พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานจเร) เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อที่ชุดทำงานจะนำไปประกอบว่ามีประเด็นใดที่น่าสนใจและต่อยอดในการสืบสวนหรือไม่อย่างไร

ด้าน นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของ นายษิทรา กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.นี้ จะเข้าเยี่ยมทนายตั้มและภรรยา พร้อมนำของใช้ส่วนตัว และของใช้ที่จำเป็นเข้าไปฝาก ซึ่งทนายตั้มไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ โดยการเข้าเยี่ยมครั้งนี้เพื่อหารือแนวทางการต่อสู้คดี ทั้งนี้เชื่อว่ายังมีข้อต่อสู้คดี อีกทั้งเตรียมประสานหาพยานคนกลาง ที่เป็นผู้เชียวชาญมาให้ปากคำกับตำรวจ ในประเด็นต่างๆ อาทิการโอนเงินระหว่างประเทศ,และหาผู้เชียวชาญเรื่องรถเบนซ์ โดยจะนำหลักฐานไปชี้แจงว่าข้อกล่าวหาเรื่องฉ้อโกงอาจเป็นเพียงการผิดสัญญา ซึ่งต่างจากกรณีฉ้อโกงทั่วไป

นายสายหยุด กล่าวต่อว่าส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโสออกมาบอกว่าทนายเดชาช่วยฟอกขาวให้กับทนายตั้มนั้น ตนมองว่า ทนายเดชาเขาพูดไปในแง่ของกฎหมาย แต่สิ่งที่เขาพูดอาจจะให้คนฟังไม่ถูกใจ มองว่าไปว่าเข้าข้าง แต่ทนายเดชาก็พูดไปตามข้อมกฎหมายในความคิดเห็นของแก ยืนยันว่าทนายเดชาไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรในทางคดีทนายตั้ม แต่จะมีแค่มาถามเพราะตนเองก็รู้จักทนายเดชา และคุยกันตั้งแต่ที่ตนจะเข้ามาทำคดีให้กับทนายตั้ม แกก็จะมาให้กำลังใจเท่านั้น




กำลังโหลดความคิดเห็น