xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษกสภาทนายความ ชี้หมายจับ"ทษิทธา" คนละส่วนกับสอบมรรยาท รอคดีถึงที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายวีรศักดิ์ โชติวานิช รองโฆษกสภาทนายความ
รองโฆษกสภาทนายความ ชี้หมายจับ"ทนายษิทธา" คนละส่วนกับสอบมรรยาท ต้องให้ศาลพิพากษาถึงที่สุดก่อน แนะลูกความไม่สบายใจเจรจาเลิกจ้างได้ ตามข้อตกลงที่เคยทำไว้

วันนี้ (7 พ.ย.) นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ และรองโฆษกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือตั้ม ทนายความ ที่ถูกตำรวจยื่นศาลอาญาออกหมายจับในข้อหา ฉ้อโกง ฟอกเงิน ทางตำรวจจะต้องนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลางอาจทำให้ลูกความที่ว่าจ้างกับทนายตั้มหรือสำนักงานของทนายษิทรานั้นมีความกังวล โดยต้องอธิบายถึงกระบวนการว่าถ้าหากพนักงานสอบสวนได้นำตัวส่งศาลเพื่อฝากขังต้องดูว่าทางศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ หากว่าทนายตั้มได้ประกันตัวเขาก็สามารถออกมาดูแลลูกความได้ตามปกติ

แต่ประเด็นสำคัญคือ ถ้าศาลไม่ให้ประกันตัว ทนายตั้มจะต้องถูกส่งตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯดังนั้นถ้าเกิดว่ามีนัดกับศาลในคดีของลูกความ เรื่องนี้ทางเสมียนของทนายตั้มจะต้องส่งคำร้องต่อศาลขอเลื่อนนัดพิจารณาในคดีความนั้นๆ แต่หากลูกความรู้สึกไม่สบายใจที่จะจ้างวานทนายคนดังกล่าวต่อ ก็ต้องไปลองคุยเจรจาขอเลิกจ้าง และข้อตกลงกับทางสำนักงานฯ หรือเจ้าตัว เพื่อหาทนายใหม่ แต่ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างตัวทนายและลูกความในการชำระค่าจ้างทนายความ ซึ่งตนเอง หรือแม้แต่สภาทนายความฯก็ไม่อาจก้าวล่วงได้

ส่วนการพิจารณาคดีมรรยาททนายความนั้น ต้องแจ้งว่าทางสภาทนายฯจะดูเป็นคดีๆไป ถ้าทนายความผู้ใดโดนคดีหรือถูกออกหมายจับ แต่ถ้าข้อหาเป็นคนละส่วนกับที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนต่อสภาทนายฯเรื่องมรรยาททนายความนั้น ก็จะไม่ส่งผลอะไรต่อการพิจารณา

“โดยทั่วไปแล้วในคดีที่ศาลออกหมายจับและศาลยังไม่ได้พิจารณาคนนั้นๆกระทำผิด เพียงแต่ศาลเชื่อเหตุแห่งการออกหมายจับที่ตำรวจระบุมาเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ถูกออกหมายจับยังไม่ใช่ผู้กระทำผิดเพราะศาลยังไม่ได้พิจารณาคดีจนถึงที่สุด อย่าลืมว่าคนที่ถูกออกหมายจับ เมื่อถึงชั้นพิจารณาตัดสินคดีแล้วก็มีการยกฟ้องได้” นายวีรศักดิ์ กล่าว


ดังนั้นการถูกออกหมายจับหรือมีคดีจึงไม่มีผลกับการพิจารณาเรื่องมรรยาททนายความ ซึ่งต่างจาก ทนายความที่ถูกศาลตัดสินจนคดีถึงที่สุด ว่าทนายคนนั้นทำผิดจริง แล้วมีการลงโทษจำคุก ยกตัวอย่าง มีทนายความได้ละเมิดอำนาจ และศาลได้พิเคราะห์ พฤติกรรมพยานหลักฐานแล้วพิพากษาว่ากระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลจริงมีโทษจำคุก ซึ่งหากจำเลยมีอาชีพทนายความ ศาลจะมีการส่งรายงานมาที่สภาทนายความฯ และขั้นตอนต่อไปทางสภาทนายความฯจะแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบว่าการกระทำของทนายความคนนั้น เข้าข่ายความผิดข้อบังคับมรรยาททนายความหรือไม่ ข้อใด และควรจะถูกลงโทษอย่างไร โดยการลงโทษเบาสุดคือการภาคทัณฑ์ ตักเตือน ต่อมาคือการพักใบอนุญาตไม่เกินสามปี และขั้นร้ายแรงที่สุด คือการลบชื่อออกจากทนายความ
กำลังโหลดความคิดเห็น