ตำรวจสืบสวนนครบาล จับกุมสาวสองดาวแอป X ถ่ายคลิปสยิวอนาจาร ขายบนโลกออนไลน์ พบมีรายได้ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงปัจจุบันกว่า 5 ล้านบาท
วันนี้ (1 พ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. จับกุม นายนรีรัตน์ อายุ 28 ปี
โดยกล่าวหาว่า 1. เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก 2. ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น 3.เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 4.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และ 5.เผยแพร่ หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) พร้อมของกลาง คือ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone รุ่น 13 Pro Max (ของกลางลำดับที่ 1) และแท็บเล็ตยี่ห้อ Ipad รุ่น Air 2 สี ขาว (ของกลางลำดับที่ 2) สามารถจับกุมได้ที่หอพัก ซ.สวนหลวง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา
โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ตามคำสั่งการของศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศพดส.บช.น.) ให้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ดำเนินการสืบสวน หาข่าวและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลพบสื่อลามกอนาจารนั้นอยู่ในแอปพลิเคชั่น X ซึ่งจะมีการอัพโหลดและดาวน์โหลดสื่อลามกอนาจารเด็ก เข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต จากการตรวจสอบพบว่าหมายเลขโทรศัพท์ ได้ผูกลงทะเบียนไว้กับทวิตเตอร์ โดยผูกชื่อผู้ใช้งานทวิตเตอร์ดังกล่าวใช้ชื่อว่า Nareerat ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.สส.บช.น. ชุดปฎิบัติการที่ 3 ซึ่งได้ทำการสืบสวน และรวบรวมข้อมูลจากรายงานมาโดยตลอด ซึ่งปรากฏจากรายงานสื่อลามกอนาจารที่เกี่ยวข้องกับเด็ก พบว่ามีการปรากฏของสื่อลามกอนาจารนั้นอยู่ในแอปพลิเคชัน X ซึ่งจะมีการอัปโหลดและดาวน์โหลดสื่อลามกอนาจารเด็ก เข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต จากการตรวจสอบพบว่าหมายเลขโทรศัพท์ ได้ผูกลงทะเบียนไว้กับทวิตเตอร์ โดยผูกชื่อผู้ใช้งานทวิตเตอร์ดังกล่าวใช้ชื่อว่า Nareerat ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นายนรีรัตน์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จึงมีเหตุอันน่าเชื่อว่า นายนรีรัตน์ มีพฤติการณ์ในลักษณะการผลิตและครอบครองสื่อลามกอนาจาร รวมทั้งมีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ในช่องทางทวิตเตอร์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายนรีรัตน์ พักอาศัยอยู่ห้องพัก ในคอนโด ซ.สวนหลวง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรี เพื่อขออนุมัติขอออกหมายค้นห้องพักดังกล่าว ต่อมาศาลอาญาธนบุรีได้อนุมัติหมายค้น เพื่อทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปยังห้องพักดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึง พบนายนรีรัตน์ ซึ่งพักอาศัยอยู่ภายในห้องดังกล่าว แสดงตนเป็นเจ้าของห้องและผู้พักอาศัย จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงความประสงค์ในการขอเข้าทำการตรวจค้นและยึดสิ่งของ สื่อลามกอนาจารเด็กและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ พร้อมทั้งได้แสดงหมายค้นดังกล่าวให้นายนรีรัตน์ ทราบและเข้าใจดีแล้ว ต่อมาจึงเข้าทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในห้องดังกล่าวพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone รุ่น 13 Pro Max และ แท็บเล็ตยี่ห้อ Ipad รุ่น Air 2 สีขาว โดยรับว่า โทรศัพท์และแท็บเล็ตดังกล่าวเป็นของนายนรีรัตน์ จริง จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์และแท็บเล็ตดังกล่าวปรากฏว่า พบสื่อลามกอนาจารทั้งคลิปวิดีโอและภาพถ่ายของเด็กและผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก อยู่ในไฟล์คลังวีดีโอและคลังภาพ ในมือถือของผู้ถูกจับกุม
จากการสอบถามนายนรีรัตน์ รับว่า คลิปอนาจารบางส่วนตนได้ทำการโหลดเก็บเอาไว้เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และบางคลิปอนาจาร ก็เป็นคลิปที่ได้มีเพศสัมพันธ์กันกับเด็กหรือเยาวชน (ซึ่งอายุไม่เกิน 18 ปี) และบุคคลทั่วไปที่รู้จักพูดคุย และนัดหมายมาพบกัน และต่างฝ่ายต่างมีเพศสัมพันธ์กันตามสถานที่ที่ได้ตกลงนัดหมายกันอาทิคอนโด หอพัก หรือรีสอร์ต แล้วแต่กรณี จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ถูกจับพบว่าในเว็บไซต์ onlyfans พบว่า มีผู้ติดตามจำนวน 236 คน ผู้กดถูกใจประมาณ 10,600 คน และพบคลิปลามกอนาจาร (ขณะมีเพศสัมพันธ์กัน) ของผู้ถูกจับกับบุคคลอื่นเป็นจำนวนมาก (จำนวน 191 คลิป)
ในชั้นจับกุม ผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา รับว่า คลิปสื่อลามกอนาจารดังกล่าวเป็นของตนที่ได้อัปโหลดลงไว้เพื่อให้หารายได้ จากการที่มีบุคคลที่สนใจสมัครเข้ามาดูคลิปอนาจารที่ตนได้ลงไว้ โดยจะได้รับค่าตอบแทนของสมาชิกที่เข้ามาดูเป็นรายคนๆ ละ 7-11 ดอลล่าร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 200-300 บาท/1 account /1 เดือน) โดยได้เริ่มสมัครเป็นสมาชิกใน OnlyFans ตั้งแต่ปี 2562 เรื่อยมา จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ถูกจับมีรายได้จากการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารตั้งแต่เริ่มทำจนถึงปัจจุบัน คิดเป็นเงิน 161,963.44 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,412,724.8 บาท) โดยเงินค่าตอบแทนดังกล่าวจะโอนเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นายนรีรัตน์ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวและของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ขอแจ้งเตือนว่า เซ็กซ์ครีเอเตอร์ (Sex Creator) หรือพอร์นฮับเบอร์ (Porn hubber) นำภาพหรือคลิปของตนเองในลักษณะทลามกอนาจาร เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น OnlyFans หรือเว็บไซต์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน รวมถึงกลุ่มลับต่างๆ ที่เปิดรับสมาชิกและมีการเรียกเก็บค่าเข้ากลุ่ม เพื่อรับชมคลิปหรือภาพลามกอนาจาร โดยผู้ที่ปรากฏในคลิป ผู้ผลิต หรือ ผู้นำคลิปไปเผยแพร่ ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากผู้อื่นเป็นค่าตอบแทนจากการกระทำดังกล่าวนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เพื่อประสงค์แห่งการค้าฯ นำเข้า ผลิต เผยแพร่สื่อลามกอนาจารฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ครอบครองสื่อลามกเด็ก หรือ Child Pornography (บุคคลในสื่อลามกอายุต่ำกว่า18 ปี) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้พฤติการณ์ดังกล่าวในหลายประเทศอาจถือว่าไม่เป็นความผิด แต่สำหรับประเทศไทย กฎหมายได้บัญญัติไว้เป็นความผิดอย่างชัดเจน จึงขอให้เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย