กองปราบฝากชัง ”บานเย็น แม่เสี่ยโป้“ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีชักชวนเล่นพนันออนไลน์ แต่ญาติไม่ยื่นประกัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวนอนเรือนจำ!
วันที่ 24 ต.ค.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กก.1 กองบังคับการปราบปราม คุมตัว น.ส.บานเย็น ชาญนรา อายุ 51 ปี มารดาของนายเสี่ยโป้ อานนท์ เป็นผู้ต้องตามหมายจับศาลอาญา คดี “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ฯ และร่วมกันฟอกเงิน” เมื่อปี 2564 ก่อนหลบหนีคดีมานานกว่า 3 ปี
ศาลพิจารณาคำร้องฝากขังแล้วอนุญาตให้ฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 24 ต.ค.-4 พ.ย. 2567
ภายหลังเสร็จสิ้นการฝากขัง ไม่ปรากฎญาติหรือทนายความมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวต่อศาล ต่อมา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัว น.ส.บานเย็นไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีสืบเนื่องจาก วานนี้ (23 ต.ค.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน รอง สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.บานเย็น ชาญนรา อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 240/2564 ลงวันที่ 3 ก.พ.2564 ได้ที่บ้านพักย่านพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.
ทั้งนี้เมื่อเดือน มิ.ย.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตรวจพบเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่งชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่เปิดให้เล่นพนันทายผลฟุตบอล และเกมคาสิโนออนไลน์ประเภทต่างๆ เช่น บาคาร่า, ไพ่ป๊อกเด้ง, เกมไพ่ชนิดอื่นๆ, ตู้เกมสล็อต, ทายผลเกม โดยพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีรับโอนเงินจำนวนมาก
สำหรับ น.ส.บานเย็น นั้นเป็นมารดาของนายเสี่ยโป้ อานนท์ ที่ปัจจุบันยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ซึ่งนางบานเย็นนั้นมีความเกี่ยวข้องกับคดีคือเป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารที่ได้รับผลประโยชน์ จากบัญชีที่ใช้พักเงินเว็บพนันดังกล่าว และยังพบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 31 ราย ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และยักย้ายถ่ายเทเงินจากผู้เล่นพนัน
ต่อจากนั้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 31 ราย หลังจากนั้นจึงนำหมายค้นเข้าตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมมีการเข้าจับกุมตัวนายเสี่ยโป้ และบุคคลใกล้ชิดไปกว่า 20 ราย ส่วน น.ส.บานเย็น มารดาไหวตัวทันและหลบหนีไป
ต่อมาตำรวจติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ พบว่ายังหลบหนีอยู่อีก 4 ราย ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ จนพบเบาะแสว่า น.ส.บานเย็น หลบหนีมากบดานอยู่ในหมู่บ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 พร้อมปกปิดตัวตนใช้นามสมมติว่า “บุษบา” มีการเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น พบบุคคลคล้าย น.ส.บานเย็นกำลังปีนรั้วหลังบ้านหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่วางกำลังปิดล้อมไว้ทั้งหมด ผู้ต้องหาจึงรีบปีนกลับเข้าไปซ่อนตัวในบ้าน ก่อนถูกจับกุมตัวดังกล่าว
หลังถูกจับผู้ต้องหา อ้างว่า ชื่อบุษบา เป็นแม่บ้าน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหลักฐานภาพบัตรประชาชนในโทรศัพท์ จึงยอมรับว่าตนคือน.ส.บานเย็น ส่วน น.ส.พฤษชาติ ผู้ต้องหา ที่หลบอยู่ภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน ก็พบว่ามีหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง จึงทำการจับตัวมาด้วย
