ทนาย"บอสพอล"แจ้งความดำเนินคดีนักร้องสาว รีดไถเงินลูกความ 10 ล้าน แลกยุติร้องเรียน "ดิไอคอนกรุ๊ป" เผยลูกความโดนนักร้องดาหน้ารีดเงินกว่า 80 คน ลั่นเตรียมปล่อยคลิปถูกเรียกเงิน 20 ล้านบาทแลกกับการไม่ไปออกรายการดัง
วันนี้ ( 22 ต.ค.)ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เดินทางเข้าพบทีมงานของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.พร้อมเปิดเผยว่า ได้นำคลิปวิดีโอหลักฐานวันที่บอสพอลจ่ายเงินให้แก่นักร้องเรียนผู้หญิงรายหนึ่ง มายื่นต่อทีมงานของ พล.ต.ต.จรูญ เพื่อดำเนินคดี ส่วนจะเป็นข้อหาใดบ้างก็ต้องมีการพูดคุยกับตำรวจอีกครั้ง
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับคลิปวิดีโอหลักฐานที่นำมามีความจุประมาณ 512 เมกะไบต์ ซึ่งได้จากการที่เลขาของหนึ่งในบอสแอบติดกล้องเอาไว้ที่หมวก โดยคลิปดังกล่าวมีเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่จะดำเนินคดีด้วย โดยมีบุคคลที่บอสพอลต้องจ่ายเงินให้กว่า 10 คน ทั้งนี้ตนได้พูดคุยกับบอสพอลแล้วทราบว่า มีผู้เรียกรับเงินจากบอสพอลกว่า 80 คน โดยเพิ่งจ่ายให้ไปเมื่อช่วงกลางปี 67 นี้
สำหรับกรณีที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปกับนักร้องเรียนหญิงคนนั้นว่า หากผู้เสียหายมองว่าบริษัททำธุรกิจขายตรงจริง นักร้องเรียนหญิงก็ควรที่จะดำเนินคดีกับบริษัทอย่างตรงไปตรงมา เช่น การร้องเรียนต่อ สคบ. หรือ ปคบ. แต่กลับเรียกมาเจรจาเพื่อจ่ายเงินให้จบเรื่อง ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง
นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะต้องขอเข้าเยี่ยมบอสผู้หญิง เพื่อนำคลิปมายื่นให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีก ซึ่งที่ผ่านมามีการเรียกรับเงินอยู่ตลอด แต่ที่มีหลักฐานชัดเจนก็คือปีนี้ โดยวันจ่ายเงินบอสพอลไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มีบอส 3 คนดำเนินการแทน แต่ไม่ทราบว่าจะมีคลิปอื่นที่บอสพอลอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือไม่ สำหรับเหตุผลที่บอสพอลยอมจ่ายเงินนั้นเพราะไม่อยากให้กระทบกับชื่อเสียง และธุรกิจ ที่ต้องแอบติดกล้องอัดคลิปนั้นก็เผื่อเกิดกรณีถูกหักหลังก็จะได้นำมาใช้เป็นหลักฐาน
นายวิฑูรย์ กล่าวยืนยันด้วยว่า บอสทั้ง 14 คนที่ตนดูแลอยู่นั้นจะยังไม่ยื่นขอประกันตัว แต่บอสดารานั้นตนไม่ทราบว่าจะยื่นประกันตัวหรือไม่
"หลังจากนี้ผมอาจจะทำคลิปหลุด โดยเป็นคลิปเสียงบุคคลหนึ่งเรียกเงิน 20 ล้านบาทแลกกับการไม่ไปออกรายการดังในช่วงไม่นานมานี้อีกด้วย เหตุที่ผมต้องออกมาเปิดเผยหลักฐาน เป็นเพราะมีการโจมตีผมและลูกความ รวมทั้งข่มขู่ผมให้ระวังตัวไว้ เพื่อให้ผมเงียบไป ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะมันเป็นคนละเรื่องกัน” นายวิฑูรย์ กล่าว
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อด้วยว่า ส่วนการถูกยึดทรัพย์นั้นมองว่าเหมือนฝากธนาคาร หากชนะคดีแล้วก็สามารถมาขอคืนได้ แต่คงไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะชนะคดีได้หรือไม่ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด สำหรับยอดเงินที่บอสพอลจ่ายไปนั้นทราบว่าเป็นจำนวน 10 ล้านบาท แต่มีในส่วนของผู้เสียหายที่มาร้องเรียนด้วย
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ได้มีการประสานข้อมูลจากบอสพอลตั้งแต่วันที่ถูกจับกุมแล้ว ซึ่งทางบอสพอลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีกลุ่มบุคคลเข้ามาบีบบังคับขูดรีดหรือหาช่องว่างโอกาสต่าง ๆ มาทำให้บริษัทเดือดร้อน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการทยอยนำข้อมูลต่าง ๆ เข้ามาให้พนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการที่ดูคลิปมีความเชื่อถือหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดีในเรื่องของการสืบสวน โดยหลักฐานในวันนี้มีทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง โดยจะขยายผลไปถึงทุกคนที่มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักร้องหรือเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้คลิปที่ได้มาจากความร่วมมือในหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์หลายช่วงหลายระยะเวลา ซึ่งตอนนี้คลิปมีจำนวนมาก จะต้องมีการไล่ดูแต่ละคลิป โดยกลุ่มรีดทรัพย์ไม่รู้ตัวว่าบอสพอลมีการบันทึกวิดีโอและเสียงไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ตนได้รับรายงานว่าโทรศัพท์อีกเครื่องของบอสพอลเปิดได้แล้ว แต่ไม่พบข้อมูลอะไร
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่าในส่วนที่มีนักร้องเรียนหญิงรวบรวมผู้เสียหายทำการขอเงินคืนจาก ดิไอคอนกรุ๊ป เนื่องจากขายของไม่ได้ ตรงนี้ตนไม่ขอไปยุ่งเกี่ยว เพราะเป็นในส่วนการทำงานของ บก.ปคบ. แต่เชื่อว่าผู้เสียหายที่ออกมาร้องเรียนร่วมกับนักร้อง มีแกนนำแน่นอน แต่ขอให้เป็นเรื่องของการสืบสวน ตำรวจจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมดำเนินคดีกับทุกคน ส่วนข้อหาว่าเข้าข่ายอะไรบ้าง หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็จะโดนเรื่องของเรียกรับผลประโยชน์ แต่ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็จะโดนเรื่องของกรรโชกทรัพย์ อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายวิฑูรย์ กล่าวภายหลังเข้าพบพล.ต.ต.จรูญเกียรติว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นภาพวิดีโอวงจรปิด ขนาด 1.8 กิกะไบต์ ส่งมอบให้กับ ตำรวจ ป.ป.ป. เพื่อตรวจสอบ หลังจากนี้ก็จะรับมอบอำนาจจากนายวรัตน์พล เข้ามาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี ข้อหากรรโชกทรัพย์ กับบุคคลตามที่อยู่ในคลิป โดยเฉพาะ น.ส. ก. ที่ไปออกรายการทีวีดังวันนี้ โดยในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ตนจะนำคลิปมาส่งมอบให้เป็นหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงนำพยานบุคคลเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย แต่ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะต้องให้สิทธิ์ผู้ที่จะถูกกล่าวหาได้ออกมาชี้แจง และอยากให้เซอร์ไพรส์ด้วย
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับคลิปหลักฐานดังกล่าว เห็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างชัดเจนว่า มีขั้นตอนตามกฎหมายที่ต้องทำ เช่นมีคนมาร้องเรียน เมื่อมีการเจรจาและจ่ายค่าเยียวยากันแล้วตามขั้นตอน แต่กลับมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาร้องเรียนบริษัทอีก ซึ่งคลิปนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็เป็นหลักฐานสำคัญว่าบริษัทได้มีการจ่ายเงินให้กับบุคคลกลุ่มนี้แล้ว นอกจากนี้ยังมีคลิปจากภาพกล้องวงจรปิดอีกจำนวนมากด้วย
นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า ภาพในคลิปหลักฐานจะมีตัวแทนผู้เสียหายประมาณ 10 คน แต่มีรายชื่อมารับเงินกว่า 80 คน ซึ่งต้องดูว่าจะมีการแจ้งความกรณีรับผลประโยชน์ซ้ำหรือไม่ โดยตนอาจไปให้ข้อมูลกับตำรวจ ปคบ.เพิ่มเติม เพราะไม่ควรมีใครที่ได้สิทธิ์ 2 รอบ และอาจดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จด้วย เพราะจะมาอ้างว่าเสียหาย ทั้ง ๆ ที่รับเงินคืนไปแล้ว กว่า 10 ล้าน โดยแบ่งเป็นของ น.ส. ก. 3 แสนบาท และจ่ายเป็นเงินสดอีก 10 ล้านให้กับผู้เสียหายกลุ่มนี้ นอกจากนี้ยังมีอีก 4.5 แสนบาท ที่จ่ายตรงเข้ามูลนิธิฯ หรือกองทุนอะไรบางอย่าง ส่วนกรณีบุคคลที่เป็นเทวดาตามที่มีการกล่าวอ้างถึงกันนั้น นายวิฑูรย์ ระบุว่านายวรัตน์พลยังไม่ประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดี
