xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กเต่า”จ่อเอาผิด"สายไหมต้องรอด" นำพยานเท็จกุเรื่อง"ดิไอคอน"โยกเงินหมื่นล้านแปลงสกุลคริปโตฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบช.ก. เผยพยานรับแล้ว กุเรื่อง "ดิไอคอน"โยกเงินหมื่นล้านแปลงเป็นสกุลคลิปโตฯ เพื่อต้องการหาแสง เตรียมนำเรื่องเข้าคณะกรรมการพิจารณาเอาผิด "สายไหมต้องรอด"


วันนี้ ( 22 ต.ค.)ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้นำพยานบุคคลหนึ่งกล่าวอ้างว่าหนึ่งใน 18 บอส มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นเงินดิจิตอลหรือคริปโตเกือบหมื่นล้านว่า พยานบุคคลดังกล่าวที่มากับนายเอกภพ ทางตำรวจได้มีการสอบสวนไปแล้ว ซึ่งบุคคลดังกล่าวสารภาพแล้วว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าเป็นการถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์ โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อหลายองค์กรที่มีการพาดพิงถึง ทั้งนี้จะต้องพิจารณาและประชุมหารือว่าจะต้องดำเนินการทางกฎหมายถึงขั้นไหนอย่างไร และส่วนนายเอกภพจะโดนด้วยหรือไม่ ก็ต้องพิจารณากันอีกครั้ง และคาดว่าที่บุคคลดังกล่าวออกมากระทำการเช่นนี้ เพราะอยากเรียกร้องความสนใจ

“ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนในการที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่าง ๆ ถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวายสร้างความไขว้เขวอันนี้ต้องว่ากัน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่านอกจากนี้ในเรื่องคริปโต บก.ปอศ. มีการตรวจสอบแล้วทราบว่า มันมีเงินไหลเวียนแบบนี้แทบทุกวันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ตรงกับช่วงเวลาดังกล่าวพอดี อย่างไรก็ต้องสืบสวนกันต่อไป อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าเทวดามีอยู่จริง โดยเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจ แต่จะเป็นใครนั้นก็อยู่ระหว่างการสืบสวนต่อไป และสำหรับจะมีการออกหมายจับใครหรือไม่ จะเป็นพระเอกหรือนางเอก ต้องรอลุ้นเอา


กำลังโหลดความคิดเห็น