เพจสายไหมฯ พาพยานอ้างใกล้ชิด"บอสพอล" เข้าให้ปากคำตำรวจปมเส้นเงินดิไอคอน เผยพบเบาะแสแม่ทีมของหนึ่งใน 18 บอส มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
วันนี้ ( 21 ต.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เวลา 14.30 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พาพยานปากสำคัญเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ปมเส้นเงินดิไอคอน
นายเอกภพ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการพาพยานมาให้ข้อมูลกับตำรวจ บก.ปปป. กรณีที่ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์ปมดิไอคอน ซึ่งพยานรายนี้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและเป็นบุคคลที่ใกล้ชิด นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และไม่ได้เป็นที่รู้จักในสื่อสังคม ซึ่งจะให้ข้อมูลเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจมากน้อยแค่ไหน ตนเชื่อว่าตำรวจมีกระบวนการในการแยกแยะและแสวงหาพยานหลักฐานแน่นอน ส่วนข้อมูลของพยานจะมีข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวพยาน แต่ตนมองว่าการที่กล้าเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจนั้นเชื่อว่า มีหลักฐานและมั่นใจในข้อมูลที่ตัวเองมีอยู่ และพยานยังเชื่อในตัวของ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เเละ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.)
นายเอกภพ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ตนเองได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน Digital จาก USDT เป็น Ethereum นั้นพบว่าหลังจากมาให้ข้อมูลในวันต่อมาก็ได้มีการ หยุดการเปลี่ยนถ่ายสกุลดังกล่าว และเปลี่ยนไปซื้ออื่นสกุลเงินอื่นแทนและเรื่องสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ออกมาชี้แจงว่าตรวจสอบเส้นทางการเงินดังกล่าวแล้วไม่พบความผิดปกตินั้น ซึ่งจากการพูดคุยทราบว่าอาจจะเป็นการถ่ายเทไปยังช่องทางอื่น
นายเอกภพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้มี ข้อมูลเบาะแสว่าในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีแม่ทีมของหนึ่งใน 18 บอสได้มีการแยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ซึ่งหากประชนพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถส่งข้อมูลหรือคลิปมาที่มาที่เพจสายไหมต้องรอดได้ ซึ่งตนจะนำไปส่งเจ้าหน้าที่โดยจะปิดบังข้อมูลผู้เเจ้งให้