สว.อลงกต ร้อง ปปป. เอาผิดขนส่งสิงห์บุรี ปมบัสนักเรียนไฟไหม้ดับ 23 ศพ ''บิ๊กเต่า" จ่อเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (21 ต.ค. )ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายอลงกต วรกี สมาชิก วุฒิสภา (สว.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ บริษัทขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี กรณีรถบัสนักเรียนจังหวัดอุทัยธานี ประสบอุบัติเหตุเพลิงไหม้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย
นายอลงกต กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.คูคต จังหวัดปทุมธานี ตอนนี้ติดปัญหาอยู่ที่การดำเนินคดีที่ สภ.คูคตจะต้องประสานกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่จะต้องมีการสรุปสำนวนสอบสวนคดี เพื่อฟ้องเป็นคดีอาญากับคนขับ และผู้ประกอบการ ซึ่ง สภ.คูคต รับปากว่า จะสรุปสำนวน ส่งฟ้องภายในวันที่ 3 พ.ย.67 และอย่างช้าสุดในวันที่ 3 ม.ค.68 ตามกำหนดที่จะต้องส่งสำนวนส่งฟ้องให้กับ ศาลธัญบุรีภายใน 84 วัน จึงได้สอบถามไปต่อว่า การฟ้องทางแพ่งจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งทาง สภ.คูคตก็ชี้แจงว่า การดำเนินคดีแพ่งต้องดำเนินคดีอาญาให้แล้วเสร็จเสียก่อน ระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ขับขี่รถ แต่ยังไม่มีการพูดถึงการตรวจสอบสภาพรถ รวมถึงถังแก๊สที่ติดตั้งภายในรถมีมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งมองว่า ในทางวิศวกรรมโอกาสที่จะเกิดเพลิงไหม้จากการประสบอุบัติเหตุเป็นไปไม่ได้ จึงได้สอบถามกับทาง สภ.คูคต ว่าจะฟ้องร้องสำนักงานขนส่งสิงห์บุรีกับวิศวกรหรือนายช่างที่ตรวจสอบสภาพรถได้หรือไม่ ซึ่งแม้ว่าทางสำนักงานขนส่งสิงห์บุรีจะบอกว่า มีการสอบวินัยช่างไปแล้ว
นายอลงกต กล่าวต่อด้วยว่า ดังนั้นตนจึงเห็นว่า จำเป็นต้องร้องเรียนกับตำรวจ ปปป. เพื่อต้องการให้มีการสอบและดำเนินคดีกับขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี และวิศวกรที่ตรวจสอบสภาพรถทั้งหมด เนื่องจากถังแก๊สที่มีเพียง 6 ถัง แต่กลายเป็น 11 ถัง และ เป็นมูลเหตุทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ในรถใช่หรือไม่ เพราะหากมีประมาณ 6 ถังตนเชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดไฟลุกไหม้ได้ จึงมองว่า การทำให้เกิดเพลาหักและไปที่ตัวถังน่าจะเป็นเจตนาหรือจงใจ หรือไม่ ของวิศวกร จึงเป็นที่มาของการดำเนินคดีกับ สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี ทีมวิศวกร และช่างตรวจสอบสภาพรถทั้งหมด
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และคณะทำงานของ ป.ป.ช. และ บก.ปปป.ว่า หลังรับหนังสือร้องเรียน ุได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม ทั้งป.ป.ช. และป.ป.ท. ซึ่งจากการทำงานพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า อาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง และจะต้องถูกดำเนินคดีหลายส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่วิศวกร และ ขนส่งฯ
ด้านนายภูมิวิศาล เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ป.ป.ท. ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเรื่องที่เกิดขึ้นจะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีส่วนในการอนุมัติอนุญาต ละเลย หรือ ละเว้น จนทำให้มีผู้เสียชีวิต แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเกรงว่าจะกระทบกับการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นอาจจะต้องใช้เวลาการทำงานสักระยะ แต่ยืนยันว่าจะทำคดีอย่างรวดเร็วและดีที่สุด
