ทนายความ ไม่ยื่นประกันตัว "บอสพอล" เจ้าของอาณาจักรดิไอคอน ระบุสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม รอฝุ่นจางมั่นใจได้ประกัน ยัน"บอสพอล"ไม่รู้จักเทวดา ล่าสุดศาลอนุญาตให้ฝากขัง รอส่งตัวนอนคุก
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ"บอสพอล" เดินทางมาติดตามการยื่นฝากขังของพนักงานสอบสวน ปคบ.
นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้ไม่ยื่นประกันตัวนายวรัตน์พล หรือ บอสพอล เพราะสถานการณ์ตอนนี้ฝุ่นยังตลบอยู่ ตั้งแต่เกิดเรื่องคดีดิไอคอน จึงรอให้ฝุ่นมันจางแล้วค่อยไปขอยื่นประกันตัวอีกครั้ง ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานสืบสวนสอบสวนและสอบปากคำผู้เสียหาย รวมไปถึงรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้พอสมควรก่อน เพื่อให้ศาลท่านมั่นใจถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหาว่าเราไม่ได้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่ายังไงก็ต้องประกันได้
ส่วนประเด็นเรื่องเทวดานั้น นายวรัตน์พล ยืนยันว่าไม่รู้จัก เรื่องนี้ขอให้ตำรวจตรวจสอบ ซึ่งตนเน้นไปที่การพูดคุยเรื่องคดีความ ก็ได้พูดคุย ปรึกษากันหกับทนายความของกลุ่มผู้ต้องหาแล้ว เพราะรู้จักกัน ส่วนใหญ่ก็เจอกันในศาล ยืนยันว่าไม่หนักใจเรื่องคดี แต่ก็ยอมรับว่าระหว่างทางของคดีเป็นสิ่งที่ทนายความกังวลว่าเราจะได้รับการประกันตัวกันตอนไหน โดยนายวรัตน์พล หรือบอสพอลเอง ก็ได้ฝากความเป็นห่วงเอาไว้ที่เราทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเอ่ยปาก “ขอให้ดูแลแม่ให้ผมด้วย” ซึ่งเรามาเป็นทนายความในชีวิตเขาแล้ว ก็ต้องดูแลกันไป
เมื่อถามถึงประเด็นดราม่าที่พูดถึงว่าตัวเองเคยเป็นทนายความให้นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์หรือเสี่ยโป้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในคุกนั้น
นายวิฑูรย์ กล่าวยอมรับว่าตัวเองเป็นทนายความให้เสี่ยโป้ตอนยื่นอุทธรณ์ เพราะครอบครัวของเสี่ยโป้มาขอให้ตนช่วยดูแลคดีให้ ซึ่งเราไม่ได้ดูแลคดีตั้งแต่ต้น มาดูคดีในระหว่างยื่นอุทธรณ์ เรามีหน้าที่ศึกษาข้อมูลและดูผลคดี ประกอบกับเรื่องที่เราถูกร้องเรียน เราก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ขออย่ามาดิสเครดิตหรือมาโยงกัน
ส่วนกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าพบมีการโอนเงินดิจิทัล สกุล USTD มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ของนายจิระวัฒน์ หรือ โค๊ชแล็ป 1ในผู้ต้องหา ถูกโอนไปยังบัญชีวอลเลท หนึ่งชั่วโมงก่อนถูกจับ เรื่องนี้นายวิฑูรย์ ระบุว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกความของตัวเองหรือเกี่ยวข้องกับบริษัท และไม่เคยทราบว่าลูกความของตัวเองมีสกุลเงินดิจิตอลอยู่หรือไม่
นอกจากนี้ นายวิฑูรย์ ยังกล่าวถึงประเด็นกระแสของดิไอคอนลุกลามไปถึงวงการพระ โดยเฉพาะ ท่าน ว.วชิรเมธีว่า ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนายวรัตน์พล หรือ พอล เพราแค่เรื่องคดีก็ไม่มีเวลาจะคุยเรื่องอื่นแล้ว แต่ถ้ารู้ว่าลุกลามไปถึงท่าน ก็คงไม่สบายใจแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ช่วงเช้าวันนี้พนักงานสอบสวน ปคบ. ได้นำตัวนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เจ้าของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ผู้ต้องหามายื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 ต่อศาลอาญา ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โดยคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากพฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้ต้องหา เป็นการร่วมกันกับผู้อื่นกระทำผิดที่มีลักษณะเป็นกลุ่มขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นระบบ คดีมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างทั่วราชอาณาจักร มีผู้เสียหายจำนวนมาก จำนวนทุนทรัพย์สูง และเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ศาลอาญาพิจารณาคำร้อง ไต่สวนพนักงานสอบสวน และสอบผู้ต้องหาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 18 – 29 ต.ค.2567
อย่างไรก็ตามในวันนี้ผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวนต่อศาลอาญา ดังนั้นเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ร่วมกับนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ บอสแซม นายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) และบรรดาบอสต่างๆ อีก 5 คน อาทิ บอสหมอเอก บอสโอม ที่ไม่ยื่นประกันตัว