ปคบ.คุมตัว“17 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป” ฝากขังผัดแรก พร้อมค้านประกัน รอง ผบช.ก.เผย “บอสพอล” ขอให้การเพิ่มเพื่อต่อสู้คดี ปัดออกหมายจับภรรยา “บอสกัน”
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 15.35 น. พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นระดับผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 17 ราย ได้แก่ นายวรัตน์พล นายเชษฐ์ณภัฎ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่), นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก), น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย), นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์), น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (บอสมิน), นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม), นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์), นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม), น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา), นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน), น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง), นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป), นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสจอย), นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ), น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน), นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) และ น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) ตามหมายจับศาลอาญารัชดา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ไปฝากขังศาลอาญารัชดาฯ ผัดแรก
หลังจากสอบปากคำเข้มตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เป็นเวลาประมาณ 14 ชั่วโมง โดยได้แยกสอบปากคำ และแต่ละบอสมีทนายความส่วนตัวคอยประกบ โดยผู้ต้องหาบางรายไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน แต่ขอไปให้การในชั้นศาลแทน โดยระหว่างการสอบปากคำ ก็มีการนำตัวผู้ต้องหาผลัดเปลี่ยนไปพักที่ห้องขังกองปราบปราม โดยแยกห้องชายหญิง ไม่มีห้องขัง VIP และนำตัวกลับมาสอบปากคำต่อในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมรถตู้ 4 คัน จะแบ่งให้ผู้ต้องหานั่งคันที่ 1 จำนวน 5 คน, คันที่ 2-4 จำนวน 4 คน และรถตำรวจนำขบวน 1 คัน ปิดขบวนอีก 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่คอยประกบผู้ต้องหา 1 ต่อ 1
ซึ่งขณะที่ผู้ต้องหาได้ลงมาทางผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามว่า รู้สึกกังวลหรือไม่ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมด 17 รายไม่ได้มีการตอบคำถามสื่อแต่อย่างใด ก่อนเจ้าหน้าที่คุมตัวขึ้นรถตู้ออกไป
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว 17 ราย และนำตัวส่งฝากขังศาลเป็นที่เรียบร้อย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวทั้งหมด แต่ยังเหลืออีก 1 ราย คือ บอสพอล ที่ยังสอบสวนไม่เสร็จ เนื่องจากผู้ต้องหาและทนายความประสงค์ที่จะให้รายละเอียดทางคดีเพิ่มเติม ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาในการจะต่อสู้คดี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนจะมีประเด็นอะไรบ้างนั้นขอไม่เปิดเผย เนื่องจากเป็นรายละเอียดของสำนวนคดี และส่วนกรอบระยะเวลาในการสอบปากคำบอสพอลคาดว่าจะใช้เวลาถึงวันพรุ่งนี้ ตามกรอบอำนาจ 48 ชม.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ จะมีการพิจารณาออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการรวบรวมพยานหลักฐาน และจากการสอบสวนผู้เสียหายที่มีจำนวนมากขึ้น ก็กำลังพิจารณากันอยู่ว่าหลักฐานจะไปเชื่อมโยงถึงผู้ใดบ้าง ส่วนทรัพย์สินของบอสพอล มีส่วนของการดำเนินคดีและยึดทรัพย์ควบคู่กันไป แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียด
ส่วนการให้การของกลุ่มบอสดารามีท่าทีเป็นอย่างไรบ้างนั้น รอง ผบช.ก.กล่าวว่า อย่างที่ทุกท่านเห็นไม่ขอตอบ
เมื่อถามถึงภรรยาของบอสกัน จะอยู่ในส่วนผู้ต้องหาล็อตใหม่หรือไม่นั้น พล.ต.ต.สุวัฒน์ ระบุว่า ให้ขึ้นอยู่กับกระบวนการการสอบสวน ส่วนจะเป็นแม่ข่ายหรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ พนักงานสอบสวนยังมีสิ่งที่จะต้องทำกันอีกเยอะ เพราะการทำสำนวนสอบสวนไม่ได้อยู่ที่การให้การของผู้ต้องหาเพียงอย่างเดียว มีอีกหลายส่วนที่ต้องประกอบกัน ส่วนกรณีที่มีชื่อบุคคลหนึ่งถูกกล่าวอ้างถึงในคลิปเสียงเทวดานั้น เป็นความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.
