xs
xsm
sm
md
lg

"ดีเอสไอ" อายัดที่ดินเปล่า 63 ไร่ ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เอี่ยว “ดิไอคอนกรุ๊ป”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รรท.อธิบดีดีเอสไอ พร้อมคณะ เข้าอายัดที่ดินเปล่า 63 ไร่ ย่านลำลูกกา พบเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง บ.ดิไอคอน กรุ๊ป ยันประสานงานร่วมตำรวจทำคดี

วันนี้ (16 ต.ค.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมคณะผู้บริหารดีเอสไอ เดินทางอายัดทรัพย์เป็นที่ดินเปล่า จำนวน 63 ไร่ ตั้งอยู่ ริมถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี หลังพบที่ดินดังกล่าว เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด

พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า จากการสืบสวนคู่ขนานกับตำรวจ ปคบ. และรวบรวมพยานหลักฐานสนับสนุนกัน พบว่ที่ดินแห่งนี้ที่มีขนาด 3 แปลง หรือ 60 กว่าไร่ เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด โดย บอสพอล ซื้อไว้ในนามนิติบุคคล มูลค่าหลายร้อยล้านบาท เมื่อปี 63 เพื่อใช้ขยายธุรกิจ ก่อสร้างหอประชุม บ้านของผู้บริหาร และอาคารศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ ภายใต้ชื่อ the icon city จึงตรวจอายัดไว้ เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินดังกล่าวถูกถ่ายโอน เปลี่ยนแปลง พร้อมเตรียมประสาน สำนักงาน ปปง. ดำเนินการต่อ และเมื่อศาลตัดสินถึงที่สุดจะสามารถขายและนำเงินคืนแก่ผู้เสียหายได้

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า จากการตรวจสอบพบ บอสพอล ซื้อที่ดินแห่งนี้ เมื่อปี 2564 จำนวน 2 แปลง แยกเป็น 30 ไร่ และ 4 ไร่ ส่วนปี 2565 จำนวน 1 แปลง แยกเป็น 29 ไร่ เบื้องต้นพบความผิดครั้งนี้ เข้าข่ายฐานฟอกเงิน และกู้เงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามบัญชีแนบท้ายคดีพิเศษ

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ขณะนี้ ดีเอสไอยังร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ซึ่งถ้าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก็จะมอบให้กับพนักงานสอบสวนของ บช.ก. แต่หากสุดท้ายเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอก็รับไปทำคดีเต็มตัว ส่วนคดีที่สังคมมองว่าน่าจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่นั้นติดขัดอะไรถึงยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งข้อมูลตอนนี้ยังอยู่ระหว่างประสานข้อมูลผู้เสียหายต้องพิจารณาเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่

ส่วนกรณีมีพยานปากสำคัญ เข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอว่ามีข้าราชการในองค์กรมีเทวดาส่งมาให้ดูแลคดีแชร์ลูกโซ่โดยเฉพาะนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า การให้ข้อมูลของพยานยังไม่มีความละเอียด ไม่สามารถระบุตัวบุคคล หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดที่เข้าไปรับผลประโยชน์ คำให้การของพยานจึงยังไม่มีน้ำหนัก ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมสืบสวนหาข้อเท็จจริง หากพบมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ทั้งนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตััม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์อายัดทรัพย์ที่ดินดังกล่าว โดย ทนายตั้ม เผยว่า ต้องขอบคุณดีเอสไอ หลังจากให้ข้อมูลแล้วก็ดำเนินการตามอายัดทรัพย์สินในทันที และคดีจะคืบหน้าได้ต้องจัดการเทวดาเสียก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวกขึ้น หากไม่มีบุคคลใดมาสร้างอิทธิพล ก็จะเห็นความคืบหน้าทางขึ้นมากกว่านี้

ด้าน นายเอกภพ ระบุว่า เมื่อเช้าช่วงเช้าที่ผ่านมา พยานหรือสายลับเข้าให้ข้อมูลที่สำคัญกับดีเอสไอแต่ยังกลัวไม่กล้าพูดเยอะ แต่ได้ให้เบาะแสว่าต้องทำอย่างนี้จะพบข้อมูลสำคัญ รวมทั้ง ไล่เส้นทางสกุลเงินดิจิทัลกับกลุ่มทุนจีนเทาเพื่อนำเงินมาคืนผู้เสียหาย ส่วนข้าราชการดีเอสไอเชื่อว่าเป็นระดับที่สามารถให้คุณให้โทษได้ นอกจากนี้ ตำรวจมีการจับกุมผู้ต้องหาหลายรายแล้วแต่มีบอสคนสำคัญที่เป็นผู้เขียนระบบไอที ต้องเร่งติดตามตัวเพราะพยานให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างแก้ระบบ


กำลังโหลดความคิดเห็น