MGR Online - ”ทนายตั้ม“ ควง ”เอก สายไหมต้องรอด“ พาพยานกุมความลับ "ดิไอคอนกรุ๊ป" จ่ายสินบนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เป็นเทวดาส่งมาดูแลกำกับคดีแชร์ลูกโซ่
วันนี้ (16 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตััม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พาพยานสำคัญที่รู้เห็นการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอระดับสูง เข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ข้อมูลลับ สั่นสะเทือนวงการยุติธรรม
นายษิทรา กล่าวว่า เมื่อวาน (15 ต.ค.) สายลับได้ออกมาให้ข้อมูลผ่านรายการทีวีเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงดีเอสไอจ่ายสินบนเทวดา โดยตนได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อนำข้อมูลของสายลับมามอบให้ดีเอสไอในวันนี้ (16 ต.ค.) ส่วนนาย ธ. ที่เป็นกุนซือในเรื่องนี้เคยติดต่อหาตน ตั้งแต่ปี 61 เกี่ยวกับการทำธุรกิจของเขาและเรื่องการสนับสนุนสมัครการเมือง แต่ตนไม่เคยเจอได้คุยแค่ทางโทรศัพท์
นายษิทรา กล่าวอีกว่า ส่วน ปปง. ยึดอายัดทรัพย์ “บอสพอล” และพวก กว่า 125 ล้านบาททันทีนั้นถือว่าทำงานรวดเร็วป้องกันความเสียหาย แต่อาจมีอายัดทรัพย์ตามมาเพิ่มเติม และในวันที่ 17 ต.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม คาดว่าจะมีการยึดทรัพย์ตัวการสำคัญอีก นอกจากนี้ สำหรับบอสตัวการสำคัญที่ปิดเฟซบุ๊กหนี ขณะนี้ทราบตัวแล้ว
"กรณีบอสพอลขู่แจ้งความที่เผยแพร่คลิปเสียงนั้น เชื่อว่ามีลูกกรอกส่งข้อความข่มขู่แต่พอกระแสตีกลับจึงลบโพสต์ อย่างไรก็ตาม ผมจะไปพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังติดต่อใครไม่ได้ หากไม่เจอใครก็จะยื่นเอกสารกับ รปภ.แทน"
ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า ช่วง บริษัท ดิไอคอน รุ่งเรือง ในปี 63-65 มีเทวดาเข้ามาเกี่ยวข้องและส่งข้าราชการท่านหนึ่งมาอยู่ ดีเอสไอ มีหน้าที่กำกับสืบสวนเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่โดยตรง หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน และคนของเทวดาคนนี้จะสามารถคุ้มครองบริษัทได้ แต่ไม่ใช่คนในคลิปเสียง เพราะคนนั้นเป็นเพียงแค่ลูกกรอก ซึ่งคนภายในองค์กรน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ตนคิดว่าอธิบดีดีเอสไอคนปัจจุบันไม่น่าจะรู้เรื่องเพราะตอนนั้นท่านเป็นรองอธิบดีกรมอื่น
นายเอกภพ เผยว่า คนที่ส่งมาไม่ถึงเป็นระดับอธิบดี แต่จะอยู่ในระดับหัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในหน่วยงานเป็นผู้บริหารระดับสูง เพราะขยับตามตำแหน่งและมีเครื่องเซ่นเป็นผลตอบแทนกัน ส่วนพยานไม่แน่ใจว่าเคยเจอกับข้าราชการดีเอสไอหรือไม่แต่ข้อมูลยืนยันว่าค่อนข้างจริง ซึ่งสิ่งที่พยานมาเปิดเพราะความเสียหายมากกระทบ คนพิการ คนจน คนแก่ จึงไม่อยากให้ใครถูกหลอกแล้ว
นายเอกภพ เผยอีกว่า ที่ผ่านมา ดีเอสไอไอ ไม่เคยมีข่าวเพราะเทวดาตั้งใจส่งคนมาทำเรื่องนี้ และไม่กลัวยุ่งเหยิงกับพยานหรือไม่นั้นก็ต้องขอคุยก่อนเพื่อความปลอดภัยของพยานด้วย และฝากนายกฯ ลงมาช่วยดูแลเพราะคนอื่นทำอะไรไม่ได้เลย
"ที่นี้เจ้าที่เฮี้ยนแต่พร้อมทำงาน เราก็ให้ข้อมูลได้ แต่ถ้าเฮี้ยนอยู่ก็พร้อมเปิดเผยข้อมูลเจ้าหน้าที่เช่นกัน ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีคลิปเสียงข้าราชการดีเอสไอกับบอสพอล แต่ยังไม่ปล่อยตอนนี้ ถ้าปล่อยก็ต้องตายด้วยกัน"
