“บอสกันต์” เผย มอบข้อมูลทั้งหมดให้ตำรวจแล้ว ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ไม่ขอพูดรายละเอียดทางคดี พร้อมฝากขอโทษผู้เสียหายจากใจจริง
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 13.30 น. กันต์ กันตถาวร พิธีกรชื่อดัง กล่าวภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อเข้าให้ปากคำแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกพาดพิงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ว่า วันนี้ มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ นำข้อมูลมาแจ้งกับตำรวจ ให้ความร่วมมือกับตำรวจทุกอย่าง รวมทั้งได้นำหลักฐานทั้งหมดมอบให้กับตำรวจเช่นเดียวกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งตอนนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการของคดีเรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจก็จะดำเนินตามขั้นตอนทุกกระบวนการ
“ผมขอยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ยืนยันว่า ให้ข้อมูลได้เท่านี้ ขอไม่แสดงความรู้สึกหรือความคิดเห็นใดๆ เพราะตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายแล้ว ต้องขอโทษสื่อด้วย เรายินดีให้ความข้อมูลทุกอย่าง ยืนอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก” กันต์ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มารายได้นั้น สรุปแล้วมาจากไหน กันต์ ไม่ขอตอบคำถามใดๆ ได้เพียงแต่ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมกับพูดสั้นๆ ว่า “ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว”
“ความเสียหายที่เกิดขึ้น ผมขอโทษจากใจจริง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากอะไรก็แล้วแต่ และเรื่องเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรมซึ่งก็จะได้ความชัดเจนออกมาโดยเร็วที่สุด” กันต์ กล่าว
จากนั้น ทนายความส่วนตัว ได้ขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน ขอเปิดทาง เนื่องจาก กันต์ ได้ให้สัมภาษณ์ในส่วนที่ให้ได้แล้ว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ยังมีผู้เสียหายจากบริษัท ไอคอน กรุ๊ป ทยอยเดินทางเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.มาคอยอำนวยความสะดวก และมีพนักงานสอบสวนที่เตรียมไว้สำหรับสอบปากคำผู้เสียหายจำนวนมากด้วย
โดย น.ส.ศิริชาดา ชุ่มดี อายุ 55 ปี อาชีพช่างเสริมสวย หนึ่งในผู้เสียหายนำเอกสารหลักฐาน พร้อมผลิตภัณฑ์อาหารเสริม อาทิ กาแฟ ยี่ห้อ Bloom Cocoa Plus จำนวน 8 กล่อง และ วิตามินซี ยี่ห้อ Boom Vitamin C อีก 2 กระปุก เข้าร้องทุกข์กับ บก.ปคบ. พร้อมกล่าวว่า ตนเป็นสมาชิกระดับดีลเลอร์ ของดิไอคอน กรุ๊ป เริ่มลงทุนธุรกิจนี้ตั้งแต่ปี 2563 มีคนรู้จักที่เป็นแม่ข่ายมาชักชวนให้ร่วมลงทุน เพราะอยากมีรายได้เสริมหวังว่าจะรวย ช่วงแรกๆ ได้กำไรมาประมาณ 60,000 บาท แต่ระยะหลังขายไม่ได้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่สั่งซื้อไปลองทานแค่ครั้งเดียว และต้องการทดลองสินค้าตัวใหม่ ทำให้ไม่สามารถขายสินค้าเดิมได้ รวมความเสียหายกว่า 3 แสนบาท ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และค่ายิงแอดโฆษณาวันละ 700 บาท คิดรวมประมาณ 6 แสนบาท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้เสียหายที่มาลงทะเบียนแจ้งความแล้วร่วม 200 ราย ส่วนเมื่อวานนี้มีกว่า 200 ราย ซึ่งเมื่อคืนนี้ผู้เสียหายรายสุดท้ายเดินทางเข้ามาตอนเวลาเที่ยงคืน
ขณะเดียวกัน บก.ปคบ.ยังกล่าวเตือนร้อยเวรและพนักงานสอบสวนทุกสถานีตำรวจ ที่ต้องรับแจ้งความคดีดิไอคอน ด้วยว่า หากไม่รับแจ้งความ ก็จะมีความผิดตามระเบียบขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีโทษกักขัง กักยาม หรือกักเวรอีกด้วย