หญิงวัย 47 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ถูกทนายความชื่อดัง ยักยอกเงิน 1.8 ล้านบาท
วันนี้ (8 ต.ค.) นางสาวเปิ้ล (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย อายุ 47 ปี เข้าร้องทุกข์ กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกทนายความชื่อดังยักยอกเงิน 1.8 ล้านบาท
ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.53 เพื่อนบ้านได้มายืมเงินคนเป็นจำนวนเงินประมาณ 3,600,000 บาท โดยทำสัญญาว่าจะชำระให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี แต่ปรากฏว่าเพื่อนบ้านชำระคืนมาแค่ 300,000 บาทเท่านั้น แต่ตนก็ยังใจดีอนุโลมให้เพื่อนบ้านผ่อนจ่ายมาเรื่อยๆ ซึ่งเพื่อนบ้านก็ยังไม่ยอมจ่ายเงิน
กระทั่งเดือน ก.ย.58 ตนได้ว่าจ้างทนายความคนหนึ่งให้มาว่าความ แต่ทนายก็ประวิงเวลา จนวันที่ 11 พ.ค.60 ฝนจะได้มีการติดต่อไปหาทนาย ซึ่งทนายก็บอกว่าคดีหมดอายุความแล้ว ทำให้ตนรู้สึกตกใจ ก็เลยแจ้งว่าให้รีบฟ้องไปก่อน เผื่อศาลจะประทับรับฟ้อง
จนทำให้ทนายยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งนครปฐม จนศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงิน 3,500,000 บาท ซึ่งตนก็ได้ยื่นอุทธรณ์ เพราะเงินไม่ครบจำนวน จนศาลฯ พิพากษาให้ชดใช้ 3,300,000 บาท
ต่อมาผู้เสียหายได้มอบอำนาจให้ทนายความไปสืบทรัพย์ของจำเลยเตรียมขายทอดตลาดปี 2561 จนลูกหนี้ได้ผ่อนชำระ โดยโอนเงินผ่านทางทนายความมาตลอด โอนไปแล้ว 36 งวด
รวมเป็นเงิน 1,850,000 บาท แต่เงินดังกล่าวก็ไม่เคยตกมาถึงผู้เสียหาย พอผู้เสียหายทวงถามก็ได้รับคำตอบมาแค่ว่า อยู่ระหว่างรอการขายทอดตลาด
จนกระทั่งเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ตนรู้สึกว่ามันล่าช้าเกินเหตุ จึงได้มีการทวงถามไปทางกรมบังคับคดี ก็ทำให้ถึงบางอ้อ เพราะกรมบังคับคดีแจ้งมาว่า ทนายความคนดังกล่าวได้นำหนังสือมอบอำนาจมาไกล่เกลี่ยและได้รับเงินจากลูกหนี้ไปแล้ว 1,850,000 บาท และมารู้ในภายหลังว่าทนายความของตัวเองมีการไปรับเงินจากลูกหนี้ 50,000 บาท เนื่องจากทนายความของฝั่งจำเลยได้มาบอกกับตน
ทันทีที่รู้ตัว ก็พยายามสอบถามไปยังทนายความ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงมาร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ทนายความคนดังกล่าว เคยมีผู้เสียหายมาร้องของความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอดเมื่อเดือน ต.ค.66 ว่า ถูกทนายความคนนี้ค้างค่าเช่าบ้านมานานกว่า 1 ปี
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปที่สภาทนายความ เพื่อดำเนินการสอบมรรยาททนายความ และการกระทำของทนายความคนนี้น่าจะเข้าข่ายในความผิดฐานยักยอกทรัพย์อีกด้วย