"นพดล"รับมอบอำนาจยื่นฟ้องคดีที่ 3 ขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท สุวพีร์ เจ้าของตลาดยิ่งเจริญ ไม่อนุญาตโอนหุ้น ทำให้เกิดความเสียหาย
ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (8 ต.ค.) นายนพดล ธรรมวัฒนะ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ(น้องสาว) และนายแทนทอง ธรรมวัฒนะ (หลาน) เป็นโจทก์ที่1-2 ตามลำดับ ฟ้องนส.ณฤมล ธรรมวัฒนะกับ บริษัทสุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด เป็นจำเลยที่1-2, ฐานเพิกถอนมติที่ประชุมบริษัทจำกัด ศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 4403/2567 และให้โจทก์นำส่งหมายเรียกจำเลยต่อไป
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า บริษัท สุวพีร์ ฯ เป็นเจ้าของตลาดยิ่งเจริญ เมื่อ 25 มิ .ย.ปี2567 โจทก์ที่ 1 ทำหนังสือสัญญาโอนหุ้นในบริษัทสุวพีร์ จำเลยที่ 2 ให้นายนพดล 368,482 หุ้น และให้นางมัลลิการ์ ธรรมวัฒนะ จำนวนเท่ากันโดยไม่มีค่าตอบแทน นายนพดลจึงแจ้งจำเลยให้ไปจดแจ้งชื่อนายนพดลในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น แต่จำเลยเพิกเฉย แต่วันที่11ก.ค.2567 จำเลยมีหนังสือประชุมกรรมการบริษัท สุวพีร์ เรื่องให้พิจารณาหนังสือที่ขอให้จดแจ้งชื่อนายนพดล แต่ตัวโจทก์ที่ 1ไปต่างประเทศ และได้รับแจ้งว่าไม่มีการประชุมครั้งนั้นแล้ว
ซึ่งนส.ณฤมล และคณะกรรมการบริษัทสุวพีร์ ไม่อนุมัติการโอนหุ้นดังกล่าว โดยอ้างสิทธิตามข้อบังคับที่ 4 ที่ให้สิทธิ์คณะกรรมการปฎิเสธ ไม่ให้ความยินยอมในการโอนหุ้นได้โดยไม่มีเหตุผล ต่อมาโจทก์ทราบว่า มีการเรียกประชุมวิสามัญโดยไม่มีการออกหนังสือเรียกประชุม ทั้งยังอ้างว่ามีการประชุม ทำให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้เพิกถอนมติการประชุมครั้งที่ 1/2567
นายนพดล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยฟ้องน.ส.ณฤมลแล้ว ส่วนคดีนี้เป็นเรื่องการไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดในพินัยกรรม ซึ่งตนอาจเปรียบได้ว่าพินัยกรรมคือรัฐธรรมนูญ ที่ทุกคนต้องปฎิบัติตาม เมื่อมีการฝ่าฝืนทำให้เกิดปัญหาขึ้น คดีก่อนที่ฟ้องไปวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นการฝ่าฝืนพินัยกรรมที่เขาไปโอนหุ้นให้บุคคลอื่น ซึ่งพินัยกรรมกำหนดว่าใครฝ่าฝืนให้ริบหุ้น ดังนั้นจะมีการนำไปสู่คดีอาญาฐานปลอมเอกสาร และตามพ.ร.บ.ห้างหุ้นส่วนที่มีโทษอาญา เตรียมจะยื่นฟ้องศาลอาญาในสัปดาห์หน้า
