xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อ "แม่ตั๊ก" บุกทวงถามความคืบหน้าคดี - ตร.ยันไร้อิทธิพลแทรกแซงมั่นใจส่งฟ้องทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



"เคนโด้" พาเหยื่อ "แม่ตั๊ก -ป๋าเบียร์" กว่า 20 คน ทวงถามความคืบหน้าคดี หวั่นถูกอิทธิพลแทรกแซง ด้านตำรวจ ปคบ. ยืนยันดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ มั่นใจส่งฟ้องทันกรอบเวลา


วันนี้ (8 ต.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ "เคนโด้" พร้อมตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายคดี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" จำนวนกว่า 20 คนเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. เพื่อทวงถามความคืบหน้าถึงกระบวนการทำคดีและตรวจสอบเส้นทางการเงิน เส้นทางทรัพย์สินของแม่ตั๊ก รวมทั้งบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง ที่อาจเข้ามาแทรกแซงคดีดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยผู้เสียหายมองว่าที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้รับข้อมูลและรายละเอียดจากสื่อมวลชนมากกว่าจากตำรวจ ทำให้กลัวว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า จึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาส่งมอบให้ตำรวจในวันนี้

ด้าน พ.ต.ท.ปริญญา ชี้แจงว่า คดีนี้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ มีการสอบสวนพยานในทุกมิติ โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อสรุปสำนวนสามารถส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ทันภายในวันที่ 2 พ.ย.นี้อย่างแน่นอน ซึ่งหากไม่เป็นไปตามขั้นตอน ทางพนักงานสอบสวนก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ด้วย ทั้งนี้หากประชาชนมีหลักฐานเพิ่มเติมก็สามารถนำมามอบให้ตำรวจได้ และหากผู้เสียหายคนใดไม่มาแจ้งความภายในกรอบระยะเวลาดังกล่าว และมาแจ้งความภายหลัง ตำรวจก็สามารถตั้งเป็นคดีใหม่ได้ ขอให้ผู้เสียหายไม่ต้องกังวล

พ.ต.ท.ปริญญา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกลูกน้องคนสนิทของแม่ตั๊กคือ เจ๊นุช,เมียหรั่ง และซ้อขวัญ ให้มาพบภายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่มีผู้ใดประสานติดต่อจะมาพบ ส่วน "กระเป๋า" คนสนิทอีกคนของแม่ตั๊ก ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียก แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ และไม่มีใครสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ทุกคนจะถูกดำเนินคดีไม่มีละเว้น ส่วนกรณีตั้งข้อสงสัยว่ามีกลุ่มนายทุนจีนเทา หรือกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ยืนยันว่ายังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้ามาบงการเจ้าหน้าที่ได้

พ.ต.ท.ปริญญา กล่าวด้วยว่า คดีนี้ขอเรียนให้ประชาชนเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอะไรก็ต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าเอาหลักฐานจากในโซเชียลมาแล้วจะสามารถดำเนินการได้ เพราะตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานทุกมิติ และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้เสียหายรายอื่น ๆ ด้วยว่าสามารถเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทุกท้องที่ทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ บก.ปคบ. เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งให้รวมสำนวนมาไว้ที่ บก.ปคบ.แล้ว โดยขอให้พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ส่งสำนวนมารวมภายในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันส่งฟ้องผู้ต้องหาภายในวันที่ 2 พ.ย.นี้






กำลังโหลดความคิดเห็น