xs
xsm
sm
md
lg

อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ อำนวยความยุติธรรมต้องทำ “ช่วยคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ให้มีตัวตนบนโลกใบนี้”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



              ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันพบว่าการประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน นับวันยิ่งมีความสลับซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีมาใช้หลอกเหยื่อจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว บางกรณีอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ผู้เสียหายขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้จริง
              
              “ผอ.ต้อง” นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กล่าวว่า ภารกิจสำคัญอีกด้านของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นอกจากการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว ยังมีด้านการป้องกันและการนำความยุติธรรมเข้าหาประชาชนอย่างทั่วถึงถ้วนหน้า ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมที่ต้องทำควบคู่กันไปในส่วนกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เช่น คดีลุงเปี๊ยก ถูก 8 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ บังคับทรมานให้รับสารภาพฆ่า “ป้าบัวผัน” ซึ่งเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาชั้นอัยการ หรือ การปราบปรามแอปพลิเคชันเงินกู้ที่เข้าถึงง่ายแต่ก็ต้องแลกกับการติดตามทวงหนี้ค่อนข้างอันตราย ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560

ดีเอสไอ ลงพื้นที่สอบปากคำคดีอุ้มลุงเปี๊ยก สภ.อรัญประเทศ
              ภารกิจหลักอีกประการ คือ การอำนวยความยุติธรรม แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ของประชาชนที่ได้ทำเรื่องร้องเรียนผ่านกระทรวงยุติธรรมหรือผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยตรง ในส่วนนี้มีโครงการสำคัญที่ได้ดำเนินการอยู่และมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงยุติธรรม กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และองค์กรภาคประชาสังคมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ คือ การพัฒนาสถานะทางทะเบียนให้กับบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติที่มีอยู่จำนวนหลายแสนรายตามแนวชายขอบหรือพื้นที่ห่างไกล สาเหตุเพราะในอดีตการเดินทางยากลำบาก พ่อแม่เลยไม่ได้แจ้งเกิด ซึ่งบางคนเกิดบนแผ่นดินไทยแต่ไม่มีบัตรประชาชนหรือสถานะใดๆ เลยก็เท่ากับเป็นคนไร้ตัวตน ดังนั้น การตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) ก็สามารถช่วยให้บุคคลกลุ่มนี้มีสถานะทางทะเบียนที่ดีขึ้น

กระทรวงยุติธรรม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมอบบัตรเด็กนักเรียนรหัส G
              แม้บางรายติดขัดด้วยข้อกฎหมายอาจจะยังไม่สามารถให้สัญชาติไทยได้ในทันทีแต่ก็ขจัดการไร้รัฐ โดยมีการกำหนดสถานะบุคคลในกลุ่มอื่นๆ ไว้และออกบัตรประจำตัวในกลุ่มนั้นๆ เพื่อเข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐและเป็นบุคคลที่มีตัวตนในโลกใบนี้ เบื้องต้นเน้นกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้สูงอายุ เด็กนักเรียนรหัส G หรือพระภิกษุสามเณร ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการช่วยป้องกันอาชญากรรมและความมั่นคงของชาติได้ด้วย เพราะบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติอาจต้องตกเป็นเหยื่อของอาชญากร เช่น ขบวนการค้ามนุษย์ หรือถูกผลักให้เป็นอาชญากรเอง ถูกชักจูงให้เข้าสู่ขบวนการค้ายาเสพติด เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงยุติธรรมที่จะดำเนินการต่อไป สามารถยืนยันในเวทีนานาชาติว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชน

ดีเอสไอ มอบบัตรประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์โอรังอัสลี (มานิ) ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
              ย้อนวัยเด็ก “ผอ.ต้อง” ศึกษาระดับ ม.1-6 รั้ว “ลูกแม่รำเพย” โรงเรียนเทพศิรินทร์ เป็นคนชอบอ่านนิยายแนวสืบสวนสอบสวนมาตลอด ทำให้ตัดสินใจเลือกเรียนกฎหมายเพราะมองว่าสามารถนำมาใช้ในการไขคดีได้ จากนั้น ปี 2542 สอบเข้ารับราชการครั้งแรกได้ที่ กองนิติการ กรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ (ปัจจุบัน คปภ.) รับผิดชอบงานพิจารณาช่วยเหลือความเดือดร้อนประชาชนจากการเบิกจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ภาพรวมเป็นงานที่ชื่นชอบแต่ต้องนั่งโต๊ะทั้งวันและส่วนตัวรู้สึกว่าอยากทำงานที่ได้ออกไปในท้องที่ต่างๆ บ้าง กระทั่งปี 2547 ดีเอสไอ ยุคเริ่มก่อตั้งองค์กร และลักษณะงานมีความน่าสนใจเพราะเป็นด้านสืบสวนสอบสวน ส่วนตัวชอบงานท้าทายอยู่แล้วจึงได้ขอโอนย้ายมา โดยช่วงแรกต้องมาเรียนรู้งานสืบสวนจากผู้ที่มีประสบการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่คือพี่ๆ ตำรวจ สมัยนั้นมีการโอนย้ายมาเยอะ แต่ก็มีข้าราชการอีกหลากหลายหน่วยงาน อาทิ ปกครองทหาร สรรพากร ศุลกากร ฯลฯ 

รูปสมัยเรียน เทพศิรินทร์ ผอ.ต้อง จากซ้ายแถวล่าง คนที่ 4
              “ตอนแรกมาเป็นเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ สำนักคดีอาญาพิเศษ รับผิดชอบคดีแชร์ลูกโซ่ หรือการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน คดีทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อนและมูลค่าความเสียหายสูง และคดีอาญาอื่นๆ ที่ไม่มีสำนักไหนรับผิดชอบเป็นการเฉพาะ แต่ขณะนั้นเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้รุนแรง จำได้ว่าย้ายมาวันแรกก็ได้รับมอบหมายให้เดินทางลงไปปฏิบัติภารกิจคดีฆาตกรรมในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทันที”

              อีกทั้ง เจ้าตัวยังร่วมอยู่ในทีมสางคดีจ้างวานฆ่า นายเจริญ วัดอักษร แกนนำต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ สุดท้ายจับกุมนักการเมืองท้องถิ่นผู้บงการและมือปืนเป็นคนในพื้นที่ หรือ คดีแชร์ลูกโซ่เคสแรกของดีเอสไอ หลังมีการก่อตั้ง เป็นการหลอกลวงให้ผู้เสียหายนำเงินมาลงทุนทำธุรกิจเครื่องเบญจรงค์ จ.สมุทรสาคร มูลค่าความเสียหายหลักสิบล้านบาท และยังมีคดีแชร์ลูกโซ่อีกหลายคดีต่อจากนั้น อาทิ แชร์ทองคำ หรือ แชร์ข้าวสาร

              ต่อมา ปี 2554 ย้ายอยู่ สำนักคดีความมั่นคง มีโอกาสทำคดีสำคัญๆ เช่น คดีลอบนำยาซูโดอีเฟดรีน (ยาแก้หวัดนำไปสกัดเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด) ออกจากระบบโรงพยาบาลรัฐและเอกชน สืบเนื่องจากพบซองยาเปล่าจำนวนมากถูกทิ้งเกลื่อนริมถนน สืบสวนทราบว่ามาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี โดยมีเภสัชกรได้สั่งยาดังกล่าวจำนวนมากผิดปกติและสะสมในคลังเก็บยาปริมาณหลายล้านเม็ด แต่พบว่าสูญหายจากระบบกว่า 7 ล้านเม็ด เมื่อขยายผลพบว่ามีการกระทำแบบเดียวกันเกิดขึ้นในอีกหลายโรงพยาบาลส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเภสัชกรประจำในโรงพยาบาลนั้นๆ รู้เห็นและลักลอบส่งยาแก้หวัดให้ขบวนการค้ายาเสพติดเพื่อนำไปผลิตในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยคดีนี้ดำเนินคดีกับตัวแทนจำหน่ายยาและเภสัชกรอีกหลายราย

ผอ.ต้อง บินไปรับตัว เณรคำ จากสหรัฐอเมริกา กลับมาดำเนินคดีในไทย
              คดีมหากาพย์ “พระวิรพล ฉัตรติโก หรือ เณรคำ” มีการร้องเรียนเข้ามาถึงพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสม ใช้ชีวิตหรูหรา มีความสัมพันธ์กับสีกาที่ยังเป็นเด็กและมีลูกด้วยกัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าคดีเกี่ยวกับพระสงฆ์มีชื่อเสียงถือเป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะต้องสู้กับแรงศรัทธา แต่จากการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนพบว่ามีความสัมพันธ์กับสีกาจริงแล้วยังนำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว ไม่ได้นำไปทำนุบำรุงศาสนาตามประสงค์ของผู้มีจิตศรัทธา และมีเงินหมุนเวียนหลักพันล้านบาท โดยทำคดีตั้งแต่ปี 2556-2560 จนสามารถนำตัว “เณรคำ” ที่หลบหนีไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ โดยใช้ช่องทางความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา (Mutual Legal Assistance Treaty-MLAT)

              ส่วนเรื่องอนาคตข้าราชการก็คงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน บรรเทาความเดือดร้อน อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน เมื่อทำแล้วชาวบ้านยิ้มสู้ได้อีกครั้ง ตัวเราเองก็มีความสุข

"จิบชาตราชั่ง"
กำลังโหลดความคิดเห็น