อสส.ตั้ง"ศักดิ์เกษม นิไทรโชค" ผู้ตรวจการอัยการ นั่งโฆษกอัยการคนใหม่ พร้อมรองโฆษกอีก 4 คน ทำหน้าที่แถลงข่าว คดีสำคัญ และข้อเท็จจริงไปสู่ประชาชน
วันนี้ (4 ต.ค.) นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 2263/2567 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 แต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้งานด้านการสื่อสารองค์กร การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การสร้างความรับรู้และความเข้าใจใจในบทบาท ภารกิจ และการดำเนินงานของสำนักงานอัยการสูงสุด ตลอดจนการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดในการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และถูกตรวจสอบได้โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้
คณะที่ปรึกษาโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ประกอบด้วย
1. นายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ
2. นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ อัยการอาวุโส สำนักงานคดีอาญา
3. นายยุทธการ สุทธิพงษ์ อัยการอาวุโส สำนักงานคดีอาญาญาพระโขนง
คณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ประกอบด้วย
1. นายศักดิ์เกษม นิไทรโชค ผู้ตรวจการอัยการ เป็นโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
2. นายกุญข์ฐาน์ ทัดทูน อัยการจังหวัดประจำสำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานวิชาการ เป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
3. นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นรองโฆษก
สำนักงานอัยการสูงสุด
4.น.ส.ฐิติวดี สินธวณรงค์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานต่างประเทศ เป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
5.น.ส.วรันธร วานิชถาวร อัยการประจำกองสำนักงานต่างประเทศ เป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
โดยให้คณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
1.กำหนดแนวทางการสื่อสารองค์กร ประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของสำนักงานอัยการสูงสุดในเชิงรุกและเชิงรับโดยให้สอดคล้องกับนโยบายอัยการสูงสุดแผนยุทธศาสตร์และและแผนปฏิบัติการของสำนักงานอัยการสูงสุด
2. ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับนโยบาย ภารกิจโครงการ ตลอดจนผลการปฏิบัติงานตามแผนงานโครงการต่างๆ ของสำนักงานอัยการสูงสุด อย่างต่อเนื่องและชัดเจน
3. แถลงข่าวและชี้แจงข้อมูลต่างๆ ในนามสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอันอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ตลอดจนพิจารณาให้ข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับข้อเท็จจริงและทันต่อ
เหตุการณ์ในทุกกรณีตามความเหมาะสม โดยละเว้นการตอบโต้ทางการเมืองและการชี้แจงที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง
ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่ง เกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
4. รับฟังข้อมูลข่าวสารและข้อคิดเห็นจากประชาชนหรือสื่อมวลชน เพื่อนำมาพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
5. ติดตาม รวบรวม และตรวจวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับสำนักงานอัยการสูงสุด โดยเฉพาะข่าวสารที่มีผลกระทบต่อสำนักงานอัยการสูงสุด
6. วิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานอัยการสูงสุด และพิจารณาหาแนวทางแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขต่ออัยการสูงสุด รวมทั้งดำเนินการแก้ไขผลกระทบตามที่อัยการสูงสุดมอบทมายโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ให้ติดตามผลการแก้ไขเรื่องที่ได้ดำเนินการแล้ว ผ่านการตรวจติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด โดยจัดทำรายงานข่าวพร้อมบทวิเคราะห์ผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานอัยการสูงสุด และรายงานอัยการสงสุดทราบทันที
7. ประสานงานเชื่อมโยงกับสื่อมวลชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์ในการสื่อสาร การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อสร้างการรับรู้ ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน
8.ในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ให้สามารถเชิญพนักงานอัยการ หรือผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสำนักงานอัยการสูงสุด มาให้ถ้อยคำ หรือชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารหลักฐาน หรือให้ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม หรือให้ส่งข้อมูลและข่าวสาร และให้หน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุดสนับสุนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของคณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเมื่อได้รับการร้องขอ
9. ควบคุม ตรวจสอบ ตลอดจนกำกับดูแลมิให้พนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นใดที่มิใช่คณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการใดตามข้อ 1. ถึงข้อ 8. เว้นแต่กรณีตามข้อ 12
10. การขอใช้อัตรากำลัง งบประมาณ เครื่องมือเครื่องใช้ เพื่อให้การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งนี้สัมฤทธิ์ผล ให้พิจารณาเสนออัยการสูงสุดตามเหตุผลและความจำเป็น
11. ให้สำนักสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นหน่วยงานหลักสนับสนุนงานของคณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
12. แต่งตั้งคณะทำงานหรือมอบหมายบุคคลที่เห็นสมควร เพื่อร่วมดำเนินการในการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม โดยได้รับความเห็นชอบจากอัยการสูงสุด
13. รายงานการดำเนินการให้อัยการสูงสุดทราบ
14. ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่อัยการสูงสุดมอบหมาย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 2259/2567 เรื่อง การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองอัยการสูงสุดปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด จึงมอบหมายและมอบอำนาจ ให้รองอัยการสูงสุดปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ดังต่อไปนี้
1.นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
1.1 งานทั้งปวงของสำนักงานต่างประเทศ สำหรับงานคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน งานมอบผู้แทนเข้าร่วมประชุมในต่างประเทศ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
1.2งานทั้งปวงของสำนักงานการสอบสวน สำหรับงานสอบสวนคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
1.3 งานทั้งปวงของสถาบันนิติวัชร์
1.4งานทั้งปวงของสำนักงานวิชาการ
1.5งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
2.นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
2.1งานทั้งปวงของสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
2.2งานทั้งปวงของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค) ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
2.3 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานคดีร้องขอความเป็นธรรม และงานคดีกลับความเห็นและคำสั่ง) สำหรับงานการขออนุญาตฟ้องให้เป็นไปตามที่อัยการสูงสุดได้มอบหมายไว้เป็นการเฉพาะตัวแล้ว และให้ลงนามรับทราบรายงานผลการอนุญาตฟ้องแทนอัยการสูงสุดได้
2.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีอาญา สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี สำนักงานคดีอาญามีนบุรี สำนักงานคดีอาญาพระโขนง และสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน
2.5 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
3.นายอดิศร ไชยคุปต์ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
3.1งานของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เฉพาะงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ในท้องที่ของภาค1-3ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
3.2งานของสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด เฉพาะงานของสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักวินัยและระบบคุณธรรม และสำนักนิติการ ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
3.3งานทั้งปวงของสำนักงานคดีศาลสูง และสำนักงกงานคดีศาลสูงภาค
3.4งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
4.นายจิระประวัติ แบบประเสริฐ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
4.1งานของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เฉพาะงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ใน ความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ในท้องที่ขอของภาค 7-9ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
4.2 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานสั่งคดีความผิดนอกราชอาณาจักรทีเกิดในท้องที่ของภาค) ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
4.3 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีศาลแขวง
4.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและสำนักงานคดีล้มละลาย
4.5 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
5.นางกอร์ปกุล วินิจนัยภาค ผู้ตรวจการอัยการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
5.1งานทั้งปวงของสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ
5.2 งานทั้งปวงของสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด ทั้งนี้ หากงานดังกล่าวเกี่ยวกับหรือต้องประสานงานกับสถาบันนิติวัชร์ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
5.3งานทั้งปวงของสำนักงานคดีภาษีอากร
5.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว
5.5 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
6.นายอธึก คล้ายสังข์ ผู้ตรวจการอัยการรักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
6.1 งานของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เฉพาะงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ในท้องที่ของภาค4-6ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
6.2งานทั้งปวงของสำนักงานคดีค้ามนุษย์งานสอบสวนและงานสั่งคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
6.3งานทั้งปวงของสำนักงานคดียาเสพติดสำหรับงานสอบสวนคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
6.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากรและสำนักงามคดีพิเศษ
6.5 งานคดีอาญาทั้งปวงในสำนักงานอัยการภาค และงานคดีความมั่นคงในพื้นพื้นที่พิเศษชายแดนภาคใต้ ตามประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่อง กำหนดสำนักงานอัยการในพื้นพื้นที่พิเศษชายแดนภาคใต้
6.6 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
7.นายศรุต รัฐรพี ผู้ตรวจการอัยการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
7.1 งานทั้งปวงของสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ สำหรับงานการยุติการดำเป็นคดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์ตั้งแต่ 100ล้านบาทขึ้นไป ให้เสนอ
อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
7.2งานของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด เฉพาะงานคดีร้องขอความเป็นธรรมและ งานคดีกลับความเห็นและคำสั่ง
7.3 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีแพ่ง สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ สำนักงานคดีแพ่งธนบุรี สำนักงานคดีแพ่งมีนบุรี สำนักงานคดีแพ่งพระโขนง และสำนักงานคดีแพ่งตลิ่งชัน
7.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีแรงงาน และสำนักงานคดีแรงงานภาค
7.5งานทั้งปวงของสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานคดีปกครองระยอง สำนักงาน คดีปกครองนครราชสีมา สำนักงานคดีปกครองอุบลราชธานี สำนักงานคดีปกครองขอนแก่น สำนักงานคดีปกครองอุดรธานี สำนักงานคดีปกครองเชียงใหม่ สำนักงานคดีปกครองพิษณุโลก สำนักงานคดีปคดีปกครอง นครสวรรค์ สำนักงานคดีปกครองเพชรบุรี สำนักงกงานคดีปกครองสุพรรณบุรี สำนักงกงานคดีปกครองนครศรีศรีธรรมราช สำนักงานคดีปกครองภูเก็ต สำนักงานคดีปกครองสงขลา และสำนักงานคดีปกครองยะลา
7.6 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
8.นายโชคชัย สินศุภรัตน์ ผู้ตรวจการอัยการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
8.1 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
8.2งานทั้งปวงของสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานของสำนักบริหาร
ทรัพยากรบุคคล สำนักวินัยและระบบคุณธรรม และสำนักนิติการ) ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
8.3งานทั้งปวงของสำนักงานการบังคับคดี
8.4 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
9.งานซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจให้รองอัยการสูงสุดตามข้อ 1-8หมายถึงงานที่สำนักงานนั้น ๆ เสนอให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยสั่งการ โดยในกรณีต่อไปนี้ ให้รองอัยการสูงสุดเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ แล้วให้รองอัยการสูงสุดเป็นผู้ลงนามแทนอัยการสูงสุดในคำสั่ง ประกาศ และหนังสือที่ออกในเรื่องนั้น ๆ ได้
9.1กรณีได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นตามคำสั่งนี้แล้ว
9.2การใดซึ่งต้องได้รับอนุมัติงบประมาณ
9.3การแต่งตั้งบุคคลเป็นผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสูงสุด การธนุญาตให้เป็นกรรมการ อนุกรรมการ คณะทำงาน ที่ปรึกษา การอนุญาตไปศึกษา ดูงาน ฝึกอบรม ณ ต่างประเทศ การอนุญาตให้เป็น อนุญาโตตุลาการ และการอนุญาตให้ไปช่วยราชการ
9.4งานซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจที่เป็นนโยบายหรืองานสำคัญ
10.งานอื่นใดซึ่งเสนออัยการสูงสุดเพื่อทราบโดยไม่ต้องมีการวินิจฉัยสั่งการอย่างหนึ่งอย่างใดอีกให้รองอัยการสูงสุดลงนามรับทราบแทนอัยการสูงสุด
11.หากมีงานอยู่ในระหว่างพิจารณาสั่งการของรองอัยการสูงสุดซึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการ
แทนอัยการสูงสุดก่อนคำสั่งนี้ออกใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ โดยให้อยู่ภายใต้บังคับของข้อ 9
12.ในกรณีรองอัยการสูงสุดคนหนึ่งคนใดไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองอัยการสูงสุดที่อยู่ปฏิบัติราชการและมีลำดับอาวุโสสูงสุดในขณะนั้นมีอำนาจปฏิบัติราชการแทน เว้นแต่อัยการสูงสุดจะมีคำสั่ง
เป็นอย่างอื่น
13.ในการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ หากมีปัญหาหรือเป็นกรณีต้องออกคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด หรืออัยการสูงสุดมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ให้นำเสนออัยการสูงสูงสุดพิจารณา
อนึ่ง ในกรณีอัยการสูงสุดไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองอัยการสูงสุดอาวุโสตามลำดับ
เป็นผู้รักษาราชการแทนอัยการสูงสุด เว้นแต่อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567 เป็นต้นไป