แม่ของทอมสาวขโมยรถป้ายแดงในห้างดังย่านรัชดา ร่ำไห้ไหว้ขอโทษ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เผยลูกเริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่ช่วงหลังโควิด จากความเครียดและซึมเศร้าเพราะตกงาน
จากกรณี น.ส.ณัฐกัญญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้ก่อเหตุขโมยรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HR-V สีดำ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา กทม. โดยภายในรถยนต์มีแมวของผู้เสียหายติดอยู่ภายในรถด้วย
โดยคนร้ายได้ขับรถยนต์ของผู้เสียหายไล่ชนรั้วเหล็ก และสิ่งกีดขวางอื่นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง เร่งตามล่ากันนานกว่า 8 ชม. กระทั่งสามารถไปจับกุมคนร้ายได้ที่ซอยนาคนิวาส 16 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ส่วนแมวก็พบว่าหลบอยู่ใต้เบาะรถ
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.52 น.
ที่ สน.ห้วยขวาง นางเอ (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 68 ปี แม่ของ น.ส.ณัฐกัญญ์ ออกมาเปิดเผยหลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้วว่า ตนอยากขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น รู้สึกเสียใจมากๆ ที่ลูกสาวไปก่อเหตุแบบนี้ทำให้ทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหาย จึงอยากจะมาเป็นตัวแทนขอโอกาสให้กับลูกสาวที่ได้ก่อเหตุขึ้น หลังจากนี้เรื่องทุกอย่าง ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย
นางเอยังกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ และมีบางช่วงน้ำตาคลอพร้อมยกมือขอโทษว่า ลูกสาวของตัวเองมีสภาพจิตที่ไม่ปกติไม่สามารถควบคุมสติได้ เวลาทำอะไรลงไปจะไม่มีการยั้งคิด จึงหวังว่าสังคมจะให้โอกาสลูกสาวได้มีโอกาสเข้ารับการบำบัดรักษาสภาพจิตให้หายขาด
สำหรับก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แม่ของผู้ต้องหาเล่าสาเหตุก่อนเกิดเหตุว่า ภายในครอบครัว มีเหตุกระทบกระทั่งกัน และลูกสาวเกิดอาการน้อยใจ จนคุมสติไม่ได้ และมีพฤติกรรมก้าวร้าวใส่ตัวเอง เป็นเหตุให้หนีออกจากบ้านมาก่อเหตุ ซึ่งตนในฐานะคนเป็นแม่ ก็อยากให้ลูกสาวได้รับการบำบัดรักษาตามขั้นตอน และหากดีขึ้นก็ขอสัญญาว่าจะดูลูกสาวอย่างดี และให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนอาการของลูกสาว เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19 ที่ลูกสาวตกงาน จนมีภาวะเครียด และมีอาการซึมเศร้า แต่ลูกสาวก็ไม่บอกให้ทางครอบครัวได้รับรู้ จนกระทั่งมีอาการหนักขึ้น และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดขอนแก่น เริ่มรักษามาประมาณปีกว่า แต่ลูกสาวไม่ยอมทานยา และบอกว่าไม่ได้ป่วย ซึ่งเวลาไม่ได้ทานยา จะมีอาการพูดคนเดียว ทำไม้ทำมือ เหมือนมีคนนั่งคุยอยู่ตรงหน้า และก็มักจะมีอาการกำเริบเวลาที่มีคนขัดใจ ทั้งๆ ที่ทางครอบครัวพยายามบอกให้กินยา
สำหรับก่อนหน้านี้ ลูกสาวไม่เคยมีพฤติกรรมไปก่อเหตุลักษณะแบบนี้เลย จึงอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งก่อนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ได้พูดคุยกับลูกสาว ซึ่งลูกพยายามบอกว่า “ไม่ได้เป็นอะไร เดี๋ยวเอายากลับไปกินที่บ้านก็ได้” ตนบอกว่าไม่ได้ เพราะกลับไปก็จะไม่ยอมกินยาอีก
นางเอกล่าวอีกว่า ถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับทางฝั่งผู้เสียหาย ขอรอการตรวจอาการของลูกสาวให้เสร็จสิ้นไปก่อน ส่วนเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายตอนนี้นั้น ไม่ขอตอบ