xs
xsm
sm
md
lg

รวบลูกจ้างสาวแสบ แอบลักเงินเจ้าของร้านกาแฟกว่า 50 ครั้ง เสียหายกว่า 2 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุมลูกจ้างสาว วัย 27 แอบลักเงินสดเจ้าของร้านกาแฟที่เก็บไว้ในเคาน์เตอร์กว่า 50 ครั้ง เสียหายกว่า 2 แสนบาท อ้างติดหนี้นอกระบบ

วันนี้ (30 ก.ย.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนางสาวปัฐมาภรณ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 4635/2567 ลงวันที่ 24 กันยายน 2567 ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง จับกุมได้ที่หน้าร้านอาหาร ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น.

โเยพฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุประมาณปี 65 ผู้เสียหายได้ว่าจ้างนางสาวปัฐมาภรณ์ผู้ เป็นลูกจ้างภายในร้าน Coffee & Bakery ชื่อดังย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยแจ้งให้พนักงานทราบว่า หากมีเพื่อนสนิทและญาติของผู้เสียหาย เข้ามาใช้บริการภายในร้าน ให้นำเงินสดประมาณ 30,000 บาทที่เก็บไว้ในเคาน์เตอร์ของร้านมาชำระแทน หากเงินใกล้หมด ให้แจ้งผู้เสียหายเพื่อจะได้นำเงินมาเติมอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งในขณะที่ นางสาวปัฐมาภรณ์ ทำงานภายในร้าน มักมีพฤติกรรมในการขอยืมเงินพนักงานภายในร้าน รวมถึงผู้เสียหายเป็นจำนวนหลายครั้ง ซึ่งในบางครั้งผู้ถูกจับยังอ้างว่าแม่ของตนได้เสียชีวิต และไม่สามารถนำร่างของมารดาไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ เนื่องจากไม่มีเงินไปชำระให้แก่ทางโรงพยาบาล ด้วยความใจอ่อนและสงสาร ผู้เสียหายจึงได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท ให้แก่ผู้ถูกจับ แต่มาภายหลังมาทราบความจริงผู้ถูกจับหลอกลวง และ มารดาของนางสาวปัฐมาภรณ์ ไม่ได้ล้มป่วยและเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งนางสาวปัฐมาภรณ์ ยอมรับว่าได้โกหกจริง

ต่อมาประมาณเดือน ก.ย.66 ผู้เสียหายพบความผิดปกติ โดยเงินจำนวนดังกล่าวได้ลดน้อยลงเร็วผิดปกติ แต่ยอดการจำหน่ายทางร้านมิได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่า นางสาวปัฐมาภรณ์ได้ทำการแอบลักเอาเงินที่ผู้เสียหายเก็บไว้ในเคาน์เตอร์เพื่อให้เพื่อนสนิทและญาติของผู้เสียหายได้ชำระค่าบริการภายในร้านเป็นจำนวนหลายครั้งกว่า 56 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 213,000 บาท เมื่อทางร้านทราบเรื่อง จึงได้สั่งพักงานผู้ถูกจับและไม่ได้เข้ามาทำงานอีกเลย ทางร้านจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ทำงานอาชีพเป็นพนักงานประจำภายในร้านกาแฟมาแล้วจำนวนหลายร้าน ในระหว่างนั้นตนได้กู้ยืมเงินนอกระบบจากบุคคลภายนอกจำนวนหลายรายเป็นจำนวนเงินกว่า 60,000 บาท โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 และร่วมเล่นวงแชร์จำนวนหลายวง เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเลี้ยงดูบุคคลภายในครอบครัว แต่พอมาถึงช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID 2019 ตนได้ถูกลดเงินเดือนและรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นจนทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ตนจึงได้ออกมาหางานทำใหม่แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน
จนกระทั่งปี 2565 ตนได้เข้ามาทำงานภายในร้าน Coffee & Bakery ของผู้เสียหาย พบเห็นว่า ผู้เสียหายมักนำเงินมาเก็บไว้ภายในเคาน์เตอร์ร้าน ซึ่งเป็นเงินที่ใช้ชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มของเพื่อนและญาติของผู้เสียหาย (กรณีเข้ามาใช้บริการ) เมื่อตนทำงานอยู่ที่ร้านได้ประมาณปีกว่า พบเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือน ก.ย.66 ตนเกิดปัญหาขัดสนเรื่องเงินทองภายในครอบครัว จึงเกิดความโลภความอยากได้ขึ้นมา จึงได้ฉวยโอกาสที่เจ้าของร้านและพนักงานไม่อยู่ แอบลักเอาเงินออกจากเคาน์เตอร์ดังกล่าวมาโดยตลอด ครั้งละประมาณ 3,000-5,000 บาท เป็นจำนวนกว่า 50 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 200,000 บาท ภายหลังทางร้านได้สั่งให้ข้าฯพักงาน ข้าฯจึงมิได้เข้าไปทำงานภายในร้านและเพิ่งจะได้งานใหม่เป็นพนักงานภายในร้านกาแฟ ย่านอารีย์ ได้ประมาณ 2 เดือน ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวขณะทำงานได้ในเวลาต่อมา โดยรับสารภาพว่าคิดน้อย แอบลักเงินดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งไม่คิดว่าทางร้านจะตรวจสอบแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนไปยังเจ้าของหรือผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ทุกท่าน นอกจากการบริหารการลงทุนภายในร้านของท่านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงาน ลูกจ้าง ภายในร้านของท่าน ว่ามีพฤติกรรม การกระทำในลักษณะที่เสี่ยง หรือล่อแหลมต่อการก่อเหตุกระทำความผิดหรือไม่ อาทิ ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกงทรัพย์ เป็นต้น เพราะนั้นก็คือต้นทุนที่ท่านจะต้องประสบและรับความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรง ทั้งต่อตนเองหรือหุ้นส่วนกิจการ รวมถึงลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้านท่านด้วย จึงควรหมั่นตรวจสอบและสังเกตความผิดปกติดังกล่าวภายในร้านเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันมิให้ท่านได้ตกเป็น “เหยื่อ” ของบุคคลใกล้ตัว อันอาจกระทบต่อการดำเนินกิจการธุรกิจของท่าน หากท่านพบเห็นเหตุสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ ผบช.น.
กำลังโหลดความคิดเห็น