xs
xsm
sm
md
lg

แถลงปิดจ๊อบ “ตามล่า 100 เครือข่าย” จับอีก 4 คดี ยึดยาบ้า 6.6 ล้าน ไอซ์ 565 กก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจ ปส.แถลงผลงานปิด Job “ปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย“ ในรอบ 1 ปี จับกุมอีก 4 คดี ผู้ต้องหา 9 คน ยึดยาบ้า 6.6 ล้านเม็ด ไอซ์ 565 กก. และเฮโรอีน 6.98 กก.

วันนี้ (30 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ท.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ และรรท. รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 ร่วมแถลงผลงานปิด Job “ปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย“ ในรอบ 1 ปี สกัดกั้นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 4 เครือข่าย ผู้ต้องหา 9 คน ยึดยาบ้า 6,600,000 เม็ด ไอซ์ 565 กก. และเฮโรอีน 6.98 กก.

โดยคดีที่ 1 บก.ปส.3 ขยายผลการตรวจยึดไอซ์ 7.58 กก. เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมาถูกซุกซ่อนในขวดโรลออน ระงับกลิ่นกาย พยายามลักลอบส่งไปประเทศออสเตเลียและพบว่าผู้ส่งคือหญิงสาวสัญชาติลาว จากนั้นตำรวจชุดจับกุมจึงสืบสวน และติดตามพฤติการณ์เรื่อยมาพบว่าจะมีการส่งพัสดุในลักษณะเดิมอีกครั้ง โดยกลับเข้ามาพักอาศัยที่อพาร์ทเม้นท์เดิมจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ จากนั้นวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา หน่วยปราบปรามยาเสพติดสุวรรณภูมิ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับ ป.ป.ส. และศุลกากร นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพัก 514 อพาร์ทเม้นท์ ถ.รัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กทม.พบ น.ส.ติ่ง พันทะวง อายุ 31 ปี สัญชาติลาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “พยายามส่งออกฯ” และพบกล่อง 2 กล่อง ภายในเป็นขวดโรลออนและยาสีฟัน ตรวจสอบพบเฮโรอีนน้ำหนัก 6.98 กก. ซุกซ่อนอยู่ และตรวจยึดทรัพย์สินกระเป๋าแบรนด์เนม 1 ใบ ราคาประมาณ 70,000 บาท จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

คดีที่ 2 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 สืบสวนขยายผลเครือข่ายที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งออกต่างประเทศโดยอำพรางไปกับเฟอร์นิเจอร์จนทราบว่าจะนำยาเสพติดที่ซุกซ่อนไปกับเฟอร์นิเจอร์มาพักเก็บในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงวางแผนจับกุมกระทั่งวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวนำมาเก็บพักคอยบ้านเช่าเลขที่ 112/6 ม.2 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเตรียมส่งต่างประเทศ จึงนำกำลังตรวจสอบพบโต๊ะ และเก้าอี้ ตรวจสอบภายในพบยาเสพติดเป็นไอซ์ ลักษณะเป็นก้อนคล้ายดินน้ำมันสีขาว และ สีชมพู คละกัน มีผงลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวใสผสมอยู่ ซุกซ่อนอำพรางในช่องลับภายในแผ่นรองนั่งของเก้าอี้ น้ำหนัก 325 กก. และซุกซ่อนอยู่ในช่องลับภายในแผ่นหน้าโต๊ะ น้ำหนัก 240 กก. รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 565 กก. สอบถามผู้ดูแลแจ้งว่าเป็นสินค้าที่มีลูกค้านำมาฝากไว้กับทางร้าน จากนั้นจึงนำของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะรสืบสวนขยายผลถึงกลุ่มเจ้าของยาเสพติด

คดีที่ 3 ตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติดเชียงราย กก.2 บก.ปส.3 สืบสวนเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงราย จนทราบว่า นายอาตี๋ ชนเผ่าอาข่า จะลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ บ้านผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่อมาวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะตำรวจชุดสืบสวนร่วมกับทหารออกสำรวจพื้นที่พบคารวานลำเลียงยาเสพติด ซึ่งเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 12 คนแบกสัมภาระเป็นกระเป๋าที่คาดว่ามียาเสพติดถูกบรรจุอยู่ด้านใน ขณะเดินลัดเลาะออกมาจากชายป่า ก่อนทั้งหมดจะไปหยุดรวมตัวกันบริเวณริมถนนทางเข้าหมู่บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา 6 รายทั้งหมดเป็นคนสัญชาติเมียนมา ส่วนคนที่เหลือวิ่งหลบหนีไปได้ ตรวจค้นในกระเป๋าพบกระสอบ 11 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้าประมาณ 1,600,000 เม็ด โดยตำรวจเตรียมขยายผลหาเพื่อนร่วมขวนการที่สามารถหลบหนีไปได้ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

และคดีที่ 4 บก.สกส. เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องกัน ตำรวจ บก.สกส. ตำรวจด่านพยุหะคีรี บก.ปส.3 ตำรวจ สภ.วังทอง ภ.จว.พิษณุโลก และ หน่วยข่าวกรองทางทหาร กองกำลังนเรศวร ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 คน หลังลักลอบลำเลียงยาเสพติดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.60 ของกลางยาบ้า 500,000 เม็ด ก่อนจะขยายผลพบว่ายังมีเครือข่ายซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ รับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลงมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง กระทั่ง พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงจัดชุดติดตามจนมาถึงพื้นที่ ต.วังทอง พบว่ารถบรรทุกทะเบียน 71 21xx เชียงใหม่ และรถยนต์ ทะเบียน 8กข 31xx กทม. ขับเข้าไปในปั๊มน้ำมันวังทอง จึงเข้าตรวจสอบพบนายสมศักดิ์ และนายสุทธิศักดิ์ สองพี่น้อง จึงเชิญตัวทั้ง 2 คน และนำรถมายังด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี เพื่อเข้าเครื่อง X-Ray ตรวจค้นโดยละเอียดพบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในช่องลับผนังด้านข้างทั้ง 2 ข้างของรถบรรทุก ตรวจสอบพบเป็นยาบ้า 5,000,000 เม็ด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกัน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือ เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือ เป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

นอกจากนี้ บช.ปส. ยังสรุปภาพรวมการปราบปรามยาเสพติดในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ภายใต้การขับเคลื่อนของ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 1,322 คดี เพิ่มขึ้น 427 คดี มีผู้ต้องหา 1,729 คน เพิ่มขึ้น 518 คน ตรวจยึดยาบ้า 380,317,464 เม็ด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 137,871,101 เม็ด คิดเป็น 56.87% และคิดเป็น 41.05% ของ ตร. ไอซ์ 13,170 กก. คิดเป็น 58.34% ของ ตร. คีตามีน 2,388 กก. คิดเป็น 47.09% ของ ตร. ในส่วนการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทั้งตามแนวชายแดน และพื้นที่ตอนใน โดยเฉพาะยาบ้าจับกุมผู้ค้ารายสำคัญรายใหญ่ ยาบ้า 500,000 เม็ดขึ้นไป 90 คดี สกัดกั้นยาบ้าได้ 361,853,712 เม็ด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว คิดเป็น 87.24 % โดยภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน และพื้นที่ปลายทาง รวมทั้งทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่เป้าหมาย ถือเป็นภารกิจสำคัญของ “แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย” ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 มีผลการดำเนินการที่น่าสนใจ ได้แก่ วันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 14,648,000 เม็ด ขณะลักลอบลำเลียง จากแนวชายแดนเข้ามาส่งต่อให้เครือข่ายในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นับเป็นการสกัดกั้นการขนลำเลียงยาบ้าที่มีปริมาณมากที่สุดของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่จับกุมได้ในปีนี้ และล่าสุดเมื่อ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังจับกุมผู้ต้องหาขณะลำเลียงยาบ้า 14,000,000 เม็ด จากพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ชั้นในได้อีกด้วย ปฏิบัติการ” ตามล่าเครือข่าย VUITTON วิตตอง” เป็นปฏิบัติการสำคัญที่สามารถสืบสวนจับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ตอนใน ได้อย่างต่อเนื่องถึง 11 คดี จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายไปแล้วกว่า 50 ราย ยึดยาบ้า กว่า 46 ล้านเม็ด ไอซ์และ คีตามีนรวมกว่า 100 กิโลกรัม ยึดทรัพย์กว่า 26 ล้านบาท ผลงานสำคัญในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดข้ามชาติ ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านลำเลียงยาเสพติดไปต่างประเทศ วันที่ 4 ธ.ค.2566 เปิดปฏิบัติการสยบไพรีปราบสมุทร “Operation Poseidon” จับกุมผู้ต้องหาพร้อมไอซ์และเคตามีนกว่า 2,200 กก. การขยายผลนำไปสู่การออกหมายจับนายชาญชัยหรือกัปตันตุ้ยฯ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 150 ล้านบาท จากการแกะรอยไล่ล่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าว นำไปสู่การจับกุมผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางทะเลได้เพิ่มเติมอีก 2 คดี ได้แก่ วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมไอซ์ 600 กก.ที่ท่าเรือริมแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร และ วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมไอซ์ 1,500 กก. ที่ท่าเรือในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ทั้ง 3 ปฏิบัติการสำคัญนี้สามารถสกัดกั้นการพยายามลักลอบลำเลียงไอซ์และคีตามีนข้ามชาติได้ถึง 4,300 กก. หรือ 4.3 ตัน

ผลงานสำคัญในการสกัดกั้นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ที่มีการลักลอบนำเข้าและส่งออกไปยังแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา บช.ปส.พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจยึดสารโทลูอีน (Toluene) 90 ตัน ลักลอบนำเข้าจากเกาหลีใต้มาที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เตรียมส่งไปแหล่งผลิต ยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน สารโทลูอีนที่ยึดได้ หากหลุดรอดไปถึงแหล่งผลิต จะใช้ผลิตยาบ้าได้จำนวนมหาศาลถึง 270 ล้านเม็ด ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เดินทางไปร่วมตรวจสอบและแถลงข่าวผลการตรวจยึดด้วยตนเอง ผลงานสำคัญในการยึดและอายัดทรัพย์สินปีงบประมาณ2567 บช.ปส. ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 4,096,626,323 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.78% ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีปฏิบัติการที่สำคัญในการยึดทรัพย์สิน ได้แก่ ช่วงเดือน พ.ค.2567 เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย “ใหม่ Logistics” ของ บก.ปส.2 ที่ปูพรมตรวจค้นในพื้นที่ 8 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดผ่านบริษัทขนส่งจากพื้น




กำลังโหลดความคิดเห็น