ผบช.ภ.1 แถลงจับกุมแก๊งบังเจ๊กขนยาบ้า 1.34 ล้านเม็ดลงภาคใต้ อาศัยขนช่วงกลางวันสบช่องด่านตรวจมีน้อย อ้างทำครั้งแรก แต่ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ย. 67 ที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง.ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิงหา เฟื่องแก้ว สว.จร.สภ.คลองหลวง ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ปัสสา รอง.สว.จร.สภ.คลองหลวง ด.ต.ไกรสร เสือโต ผบ.หมู่งานจราจร และเจ้าหน้าที่ ตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ทราบชื่อ นายสุทัศ เพชรเชนทร์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 242/62 หมู่ 1 ต.เขานิพันธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และ นายวิษณุ อินชนะ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 32 หมู่ 7 ต.สองแพรก อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ของกลาง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วิช สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 125 นครศรีธรรมราช และยาบ้าบรรจุอยู่ภายในกระสอบและถุงดำพันด้วยเทปกาว จำนวน 3 ห่อใหญ่ รวมยาบ้าทั้งสิ้น 1,340,000 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่ปากทางเข้าถนนสีขาว ถนนพหลโยธิน (ขาเข้า) หลัก กม.43+400 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ซึ่งวันนี้เป็นการจับยาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งเคสนี้เป็นไว้พริบของ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง ที่ได้ตั้งด่านบริเวณถนนพหลโยธิน ปากทางเข้าถนนสีขาว ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดสำคัญที่เป็นการขนย้ายยาเสพติด ซึ่งระหว่างตั้งด่านก็พบรถต้องสงสัย ซึ่งเป็นรถยนต์โตโยต้า วิช ทะเบียน กอ 125 นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอก็พบว่ามียาเสพติดเป็นยาบ้า 1,340,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน โดยพบว่า ผู้ต้องหา ทั้ง 2 คนเป็นชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทั้งสองคนไปรับยาเสพติดมาจากจังหวัดสระบุรี แล้วกำลังนำยาไปส่งที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
จากการตรวจสอบทั้งสองคน ไม่พบประวัติ แต่จากการตรวจฉี่พบว่ามีการเสพยาเสพติด ต้องเรียนพี่น้องประชาชนว่า ที่พี่น้องประชาชนเราเห็นว่าตำรวจจราจรต้องตั้งด่านในเวลาดลางคืน นั้น ซึ่งตรงนี้คนร้ายเห็นช่องว่างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านกวดขันในเวลากลางคืน ส่วนกลางวันไม่ค่อยมีด่าน ซึ่งจึงได้เฉลี่ยมาตั้งด่านตอนกลางวัน เพื่อสกัดกันยาเสพติด และคอยดูแลความปลอดภัยให้พีน้องประชาชน ในประการที่สอง พบว่าเจ้าหน้าที่ของเราปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ซึ่งคนร้ายเสนอให้ทรัพย์สินให้เงินกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของเราปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดไม่รับเงิน และทำการตรวจสอบทางกฎหมาย ก่อนพบว่า มียาบ้า 1.34 ล้านเม็ด
ซึ่งถ้าหากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรารับสินบน ปล่อยให้ยาเสพติดไปนั้น ก็จะกระจายไปในชุมชนของลูกหลานเรา 1.34 ล้านเม็ด อันนี้จึงเรียนพี่น้องประชาชนให้รับทราบว่า หากเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านอาจจะไม่ได้รับความสะดวกสะบายในการใช้ถนน ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เพราะเราต้องป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไม่ให้เเพร่หลายไปในชุมชน ก็ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจตรงนี้ด้วย และถ้าพี่น้องพบที่มีความผิดปกติ หรือก่อเหตุอาชญากรรม ก็สามารถแจ้งได้ที่ 191 หรือโรงพักใกล้เคียงได้เลยนะครับ
ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองพบว่า การขนยาเสพติดจะเลือกขนยาช่วงเวลากลางวัน เนื่องจากมีด่านน้อย และบางที่ไม่มีด่าน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นมืออาชีพ น่าจะมีประสบการณ์ แต่ทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าพึ่งทำครั้งแรก แล้วเราก็มีในเรื่องของเงินหมุนเวียนต่างๆ เราก็ต้องมาตรวจสอบกับ ในส่วนตัวการทางเราอยู่ระหว่างการขยายผล ซึ่งกำลังดำเนินการในภาคพื้นดิน และภาคอากาศ ซึ่งกำลังสืบสวนติดตามขยายผลไปทางตัวการที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้านเครือข่ายบังเจ๊กต่อไป
พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 เกษียนสิ้นสุดอายุราขการในวันพรุ่งนี้(30กันยายน2567)ซึ่งเป็นการโชว์ผลงาน